วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2562 ที่ห้องโคราชฮอลล์ 2 ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา นางปิยะฉัตร อินสว่าง รอง ผวจ.นครราชสีมาเป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการท้องถิ่นโคราชร่วมใจ สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนน”Korat local look forward to road safety” เป้าหมายลดอุบัติเหตุทางท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่มีอุบัติล้มตายจากการขับขี่ยวดยานพาหนะบนท้องถนน โดยมีนายอำเภอ ปลัดอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น ปลัด อปท.ในจังหวัดนครราชสีมาเข้าเร่วมประชุมกว่า   300 คน

ตามนโยบายของ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้จังหวัดนครราชสีมาดำเนินโครงการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.)ให้ลดการเกิดอุบัติเหตุจราจร ลดการบาดเจ็บ การเสียชีวิตในพื้นที่ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการ “รวมพลังขับเคลื่อนกลไกจังหวัดสู่อำเภอเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนคราชสีมา” ซึ่งเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน มกราคม -ธันวาคม ๒๕๖๒ โดยได้มีการจัดตั้ง ศปถ.อำเภอ ทั้ง ๓๒ แห่ง ให้ขับเคลื่อนเป็นตันแบบการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน โดยบูรณาการทำงานในระดับพื้นที่ มี ศปถ.อำเภอ ทุกแห่งทำหน้าที่รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และเสนอแนวทางแก้ไขต่อคณะกรรมการ ศปถ.อำเภอ นอกจากนั้นยังมีการจัดตั้ง ศปถ.อปท.ครบ 333 แห่ง เพื่อทำข้อมูลอุบัติเหตุเป็นรายตำบล ลงพื้นที่สอบสวนอุบัติเหตุกรณีเกิดอุบัติเหตุใหญ่ ดำเนินการแก้ไขจุดเสี่ยง กำหนดให้ทุกอำเภอมีพื้นที่ตันแบบ อย่างน้อย ๑ โรงเรียน ๑ องค์กรภาคเอกชน เพื่อให้เกิดเป็น “ตำบลขับขี่ปลอดภัย” ในปี ๒๕๖๓

นางปิยะฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวว่า ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญของ ทุกประเทศที่เผชิญอยู่ โดยมีแนวโมของผู้เสียชีวิตและความรุนแรง ของการเกิดอุบัติเหตุที่สูงขึ้น ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิก ให้ความสำคัญกับปัญหาท่าเกิดขึ้นนี้ และยกระดับการแก้ปัญหา ด้านความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระที่สำคัญของทุกประเทศในโลก โดยให้ดำเนินการตามกรอบปฏิญญามอสโก ซึ่งกำหนดให้ พ.ศ.๒๕๕๔ – ๒๕๖๓ เป็นทศวรรษแห่งการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยทางถนนซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๓ กำหนดให้ปี๒๕๕๔-๒๕๖๓ เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน และกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ มีเป้าหมายในภาพรวม คือ ให้สามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือ ๒๐ คนต่อประชากรแสนคนภายในปี ๒๕๖๓ ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓

“ในปี พ.ศ.๒๕๕๙ ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน๒๒,๔๙๑ ราย สูงเป็นอันดับที่๙ ของโลก เกิดผู้พิการ ปีละ ๔๐,๐๐๐ -๕,๐๐ คน รัฐบาลต้องใช้งบประมาณในการดูแลผู้พิการ ที่เกิดจากอุบัติเหตุอย่างน้อยประมาณ ปีละ ๓๒ ล้านบาท มีอุบัติเหตุเกิดบนถนนของ อปท. ๗๒ %และเสียชีวิตบนถนนของ อปท. ๗๕ % สำหรับจังหวัดนครราชสีมาในปี ๒๕๖๓ มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ๘๓๙ คน คิดเป็น ๓๒ คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน และใน ปี ๒๕๖๒ตั้งแต่เดือนมกราคม -ตุลาคม ๒๕๖๒ จำนวน ๖๐๓ คน”รอง ผวจ.โคราชกล่าว

นางปิยะฉัตรกล่าวต่อว่า ได้แก้ระเบียบและกฎหมายให้สอดคล้อง กับหน้าที่ของท้องถิ่นตามที่ได้รับมอบหมาย ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกๆ พ.ศ. ๒๕๕๔ กำหนดให้ ศปถ.อำเภอ และศปถ.อปท. มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ จัดทำแผนปฏิบัติ แผนงาน โครงการฯในระดับอำเภอ/ท้องถิ่น ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ อำนวยการ ประสานการปฏิบัติงาน เร่งรัด ติดตาม และประเมินผล ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน จัดให้มีศูนย์ข้อมูลและสถิติอุบัติเหตุทางถนนของอำเภอ/ท้องถิ่น เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและประชาสัมพันธ์การดำเนินงาน แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือ

คณะทำงานโดยในวันนี้ ให้ใช้กลไกตามระเบียบสำนักนายกฯ พ.ศ. ๒๕๕๔ ในการบูรณาการความร่วมมือและขับเคลื่อนการดำเนินงานในพื้นที่ให้บรรลุเป้าหมาย ให้นำรูปแบบการดำเนินงานของพื้นที่ที่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งจะนำไปปรับใช้ในพื้นที่ให้เหมาะสมให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งของกลไกการจัดการในระดับตำบล ท้องถิ่น เพื่อเป็นฐานไปสู่การแก้ปัญหาในระยะยาว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องเป็นกลไกหลักในการแก้ปัญหา อุบัติเหตุทางถนนในระดับชุมชนท้องถิ่น เน้นการสร้างการรับรู้ สร้างวินัย ใช้มาตรการครอบครัว ชุมชน สังคม ปิดจุดเสี่ยง จุดอันตราย ดูแลเรื่องวิศวกรรมจราจรและความปลอดภัยของถนนในพื้นที่มากขึ้น

“โดย ๕ หน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่ รณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทางอย่างเข้มขั้นจริงจังต่อเนื่องทุกหน่วยงานต้องร่วมมือขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังให้พื้นที่ในระดับตำบลสามารถลดผู้เสียชีวิตลงได้อย่างน้อย ๑ ราย จะมีผลทำให้ภาพรวมของจังหวัดนครราชสีมา มีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลดลงได้อย่างเป็นรูปธรรมบัดนี้ ได้เวลาอันสมควรยิ่งแล้ว ดิฉันขอเปิดการประชุมสัมมนา”ท้องถิ่นโคราชร่วมใจ สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนน” นางปิยะฉัตรกล่าว

ทีมข่าวอาชญากรรม MC.news.com.net รายงาน