พื้นที่โฆษณา

นายกฯ จับมือรัฐ เอกชน ประชาชน ในฐานะเจ้าของบ้าน สร้างความมั่นใจ ย้ำคำมั่นเดินหน้าเปิดประเทศ ฟื้นการท่องเที่ยวไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว.โดยผู้แทนภาคเอกชน ได้แก่ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ,ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย , ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แถลงร่วมเดินหน้าประเทศไทย  โดยในที่ประชุม ศบค. ได้มีการ เตรียมความพร้อมถึงมาตรการ และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก และสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศ รวมทั้งการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม โดยจะเร่งรัดให้มีการดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด!! ส่วนยอดการติดเชื้อวันนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 10,486 ราย เสียชีวิต   94  ราย หายป่วย 10,711 ราย!!

พื้นที่โฆษณา

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19 วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2564 ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่รวม 10,486 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 9,410 ราย  ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 867 ราย  ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 167 ราย  ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 42 ราย  ผู้ป่วยสะสม 1,733,327 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) แพทย์รักษาหายป่วยกลับบ้าน 10,711 ราย สรุปหายป่วยสะสม 1,609,035 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ขณะนี้มีผู้ป่วยกำลังรักษา 107,606 ราย  วันนี้มีผู้เสียชีวิต 94 ราย

พื้นที่โฆษณา

ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวานวันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 239,906,803 ราย มีอาการรุนแรง 80,653 ราย  แพทย์รักษาหายแล้ว 217,246,098 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,888,708 ราย จัดอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดได้แก่  1. สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อ จำนวน 45,546,217 ราย    2. อินเดีย ติดเชื้อ จำนวน 34,019,680 ราย   3. บราซิล ติดเชื้อ จำนวน 21,597,949 ราย4. สหราชอาณาจักร ติดเชื้อ จำนวน 8,272,883 ราย  5. รัสเซีย ติดเชื้อ จำนวน 7,861,681 ราย สำหรับประเทศไทย ติดเชื้ออยู่ในอันดับที่ 24 จำนวน 1,751,704 ราย

พื้นที่โฆษณา

สำหรับประเทศไทยรายงานจากศูนย์ข้อมูลCOVID19 ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ MOPH-IC มีจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 13 ต.ค. 2564)รวม 62,579,803 โดส ใน 77 จังหวัด  โดยภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 13 ตุลาคม 2564 💉ยอดฉีดทั่วประเทศ 583,994 โดส  เป็นการฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 343,822 ราย  ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 219,841 รายและฉีดเข็มที่ 3 จำนวน 20,331 ราย  จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 36,239,806 ราย  จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 24,502,527 ราย  และจำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 1,837,470 ราย

มีรายงานข่าวว่า ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ครั้งที่ 16/2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้แทนภาคเอกชน ได้แก่ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แถลงร่วมเดินหน้าประเทศไทย  โดยที่ประชุม ศบค. ได้มีการพูดคุย เตรียมความพร้อมมาตรการ และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศ รวมทั้งการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม โดยจะเร่งรัดให้มีการดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด

นายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะมีการเปิดประเทศภายในเดือนพฤศจิกายน 2564 และจะให้มีการผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมตั้งแต่ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป วันนี้ได้มีการหารือเพื่อให้มีการกำหนดมาตรการ ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย พร้อมทั้งต้องมีการหารือร่วมกันกับประเทศต้นทาง เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย โดยขอให้ภาครัฐ ทุกกระทรวง ทุกส่วนราชการและภาคเอกชน ภาคประชาชน ทำงานร่วมกันภายในช่วงสองสัปดาห์ที่เหลืออยู่ สร้างความมั่นใจให้ชาวต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เตรียมให้การต้อนรับในฐานะคนไทยที่เป็นเจ้าของบ้าน โดยจะใช้เวลาในช่วงตุลาคม – พฤศจิกายน เตรียมมาตรการเพื่อเปิดประเทศและการผ่อนคลายเพิ่มเติมมากขึ้น โดยอาศัยกรอบจากกระทรวงสาธารณสุข นอกเหนือจากมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวแล้ว ยังจะต้องมีการเตรียมมาตรการรองรับคนไทยที่กลับจากต่างประเทศในกติกาเดียวกันด้วย โดยจะต้องปรึกษาหารือในรายละเอียดอีกครั้ง

นายกรัฐมนตรีกล่าว สิ่งที่จะประกาศวันนี้คือ พวกเราร่วมมือกันทำงาน ให้สิ่งเริ่มต้นเล็ก ๆ เพื่อให้หลายภาคส่วนในประเทศไทยได้กลับมาทำมาหากินอีกครั้งหนึ่ง  และมีการเปิดประเทศอย่างสอดคล้องกับศักยภาพของประเทศไทย โดยใช้มาตรการที่เหมาะสม เช่นเดียวกับหลายประเทศ ซึ่งการประชุม ศบค. ในวันนี้ได้แสดงให้เห็น คือ เมื่อคนไทยร่วมมือกัน ก็สามารถทำสิ่งที่เกินกว่าความคาดหมายได้เสมอ

 ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณทุกฝ่าย ฝ่ายเศรษฐกิจ รองนายกรัฐมนตรี ภาคเอกชน ซึ่งจะต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยที่เป็นกระทรวงรับผิดชอบกำกับมาตรการในระดับพื้นที่  พร้อมยืนยันความตั้งใจพลิกฟื้นการท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง จากศักยภาพที่มีอยู่ โดยขอให้สื่อมวลชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ สร้างความรับรู้แก่ประชาชนด้วย

#ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูลCOVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ 

สำนักข่าว MC.news.com รายงาน