โปรดติดตามคลิปที่ 2 ด่านล่าง

กรณีเกิดความวุ่นวายต้อนรับปีใหม่ 2564 เมื่อมีกลุ่มบุคคลสองฝ่าย ต่างอ้างตัวเป็นผู้ได้รับสิทธิเข้าครอบครองตลาดสุรนคร  จนเกิดเหตุกระทบกระทั่งกัน  อันเป็นเหตุเกิดปัญหาบานปลาย มีความผิดตามกฎหมายในคดีอาญา เหตุเกิดในตอนเช้าวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2564 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สภ.อ.เมืองนครราชสีมา จำนวนหนึ่ง อ้างว่าได้รับคำสั่งจากนายตำรวจยศพันตำรวจโทนายหนึ่ง(ขอสงวนนาม)ให้นำกำลังตำรวจมาระงับเหตุ สถานการณ์สงบลงเมื่อ พ.ต.อ. กรกฎโปชยวณิช ผกก.สภ.อ.เมืองนครราชสีมา เดินทางมาดูเหตุการณ์ด้วยคัวเอง และได้นัดให้คู่กรณีไปพบเพื่อเคลียร์ปัญหาและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

คลิปที่ 2

ต่อมา พลตำรวจตรีไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.3 รักษาราชการแทน  พล.ต.ท. ภาณุรัตน์  หลักบุญ ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3.เรียกกลุ่มผู้อ้างสิทธิในการครอบครองตลาดสุรนคร มาเคลียร์ปัญหา   ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค –3 โดยให้ทุกฝ่ายนำหลักฐานเอกสารมาแสดงสิทธิ์  โดยฝ่ายหนึ่งมีนายสุนทร สุวรรณชาติ พร้อมทั้งทายาทในตระกูล”สุวรรณชาติ”จำนวน 7 คน พร้อมด้วยนายเกริกฤทธิ์ โชติธาพิพัฒน์ ทนายความและตัวแทนบริษัทโคราชอาสา ได้นำเอกเอกที่แสดงสิทธิ์การครอบครองตลาดสุรนครมาแสดงด้วย แต่ปรากฎว่าไม่พบคู่กรณีที่อ้างสิทธินำเอกสารมาแจ้งตามเวลาที่นัดหมายแต่อย่างใด

ของขวัญปีใหม่ 2564 ที่ล้ำค่า

นายสุนทร สุวรรณชาติ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีนี้เกิดจากการที่มีชายชุดดำ และเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี พร้อม”เหลือบ”ตำรวจกลุ่มหนึ่ง นำกังลังเข้าไปขับไล่  จับกุมพนักงาน-ทนายความของตลาดสุรนคร ที่บริหารโดยบริษัทโคราชอาสา ผู้รับช่วงบริหารต่อจาก นายสุนทร สุวรรณชาติ และนายสุนทรเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจากนายปรีชา สุวรณชาติ ที่เป็นพ่อบุญธรรม  ในการดำเนินกิจการตลาด การกระทำดังกล่าว จนท.รัฐและตำรวจ ทำให้บริษัทโคราชอาสา ได้รับความเสียหาย นอกจากนั้นการกระทำของตำรวจที่จับกุมผู้ต้องหาที่เป็นพนักงานตลาด ยังปฏิบัติโดยพละการไม่มีหมายจับ รวมทั้งข้าราชการที่เกี่ยวข้องซึ่งตนกำลังดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่ในขณะนี้

“ตนได้รับการมอบอำนาจจากญาติพี่น้องในตระกูลสุวรรณชาติ ที่มาพบรองผู้บัญชาการในวันนี้  เพื่อเรียกร้องสิทธิและความชอบธรรมในตลาดสุรนคร เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนายปรีชา ที่ฮุบกิจการตลาดไปดำเนินการ และถูกตัดสิทธิทางผลประโยชน์  ส่วนตนไม่ได้หวังในสมบัติของนายปรีชาพ่อบุญธรรม เนื่องจากตนมีสัญญาที่ทำนิติกรรมกับนายปรีชา ในการดำเนินงานทวงคืนตลาดสุรนคร ที่ดำเนินการมาเกือบ 30ปี โดยนิติกรรมที่ทำไว้ยังไม่ถูกยกเลิกโดยศาลใดๆ ส่วนบริษัทโคราชอาสา ที่ได้รับผลกระทบก็นำหลักฐานที่ได้รับมอบอำนาจจากผมมาแสดงในการที่เข้าไปดำเนินกิจกรรมในตลาด ไม่ได้มีการบุกตามที่มีข้อกล่าวหา” นายสุนทรกล่าว

นายสุนทรกล่าวต่อไปว่า ได้อธิบายเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งหมด ให้ท่านรองผู้บัญชาการฟัง ประกอบหลักฐานทางเอกสารทั้งหมด เท่าที่ทราบนายปรีชา ได้มีการตั้งตัวแทนที่เป็นรุ่นหลาน ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับมรดกมาดำเนินการ โดยนำชายชุดดำและเจ้าหน้าจากกรมบังคับคดี  รวมทั้งมี ตร.ยศพันตำรวจโทนายหนึ่ง (ขอสงวนนาม ที่มีพฤติกรรมเป็น”มาเพีย”ปล่อยเงินกู้ในตลาดแห่งนี้) นำกำลัง จนท.ตำรวจเข้าไปดำเนินการข้างต้น  ซึ่งต่อมาพล.ต.ต.ไพศาล รอง ผบช.ภ.3 เรียกตัว พ.ต.อ.กรกฎ ผกก.เมือง นครราชสีมา มาสั่งการ โดยห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะเป็นเรื่องของเอกชนที่มีเรื่องฟ้องร้องกันทางแพ่ง ตำรวจจึงไม่มีสิทธิไปเกี่ยวข้อง ส่วนการดำเนินกิจการในตลาด ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ตามเอกสารที่ระบุไว้ชัดเจน ข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป

ทีมข่าว MC.news.com รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา