ศาลโคราชพิพากษาคดีโกงค่าจ้างขอคืน “ตลาดพันล้าน”สุรนครเมืองใหม่ หลังจากที่”ปรีชา สุวรรณชาติ”แห่งบริษัทอุ้มบุญธุรกิจ ทำสัญญาจ้าง “สุนทร สุวรรณชาติ”ลูกบุญธรรม ลงทุนกว่าพันล้านสู้คดี จนได้ตลาดคืนมาครอบครอง แต่”พ่อทูนหัว”ความโลภเข้าตา ฉีกสัญญาว่าจ้างเบี้ยวไม่จ่ายไปแบบน้ำขุ่นๆ ลูกบุญธรรมเหลืออดฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายเกือบพันล้าน ศาลพิพากษาให้พ่อบุญธรรมต้องจ่ายค่าจ้างทั้งหมด 452 ล้านบาท

วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2563 เวลา 10.00 น.ที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา กรณีนายสุนทร สุวรรณชาติ หรือ แพงไพรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปรีชา สุวรรณชาติ เจ้าของผู้ครอบครองตลาดสุรนครเมืองใหม่ในปัจจุบัน โดยคำบรรยายฟ้องสรุปได้ว่า นายปรีชา สุวรรณชาติ แห่งบริษัทอุ้มบุญธุรกิจได้ทำสัญญาว่าจ้างและมอบอำนาจให้นายสุนทร แพงไพรี ให้ดำเนินการ ทวงคืนตลาดสุรนครเมืองใหม่ ที่ถูกกลุ่มทุนจากบริษัทสุรนครเมืองใหม่ ยึดครองไม่ยอมจ่ายค่าเช่าจนกระทั่งทำให้นายปรีชาได้ทรัพย์สินที่เป็นตลาดสุรนครมาครอบครอง แต่กลับไม่ยอมรับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

การดำเนินการทั้งหมดได้มีการทำสัญญาผูกพันกันหลายฉบับ ที่ระบุว่า นายปรีชา จะมอบผลประโยชน์ต่างตอบแทน และเพื่อแสดงความไว้วางใจนายปรีชาจึงได้ยินยอมจดทะเบียนรับนายสุนทร เป็นบุตรบุญธรรม เพราะค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าจ้างทีมทนายความ ค่าธรรมเนียมทางศาลในทุกศาลที่ดำเนินการฟ้องร้องเอาที่ดินและตลาดคืนมา นายสุนทรเป็นผู้จ่ายทั้งหมด หลังจากได้ตลาดคืนมาปรากฏว่านายปรีชา ไม่ยอมทำตามเงื่อนไขตามข้อตกลงในสัญญา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายสุนทรก็ได้พยายามทวงถามขอให้ชำระหนีสินและทำตามสัญญาว่าจ้าง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธโดยตลอด แถมยังทำหนังสือบอกเลิกการทำนิติกรรมที่ทำไว้กับนายสุนทรทั้งหมด นายสุนทรจึงได้ทำเรื่องฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดนครราชสีมาเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนเงิน 852 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอีกร้อยละ 7.5ต่อปี

หลังการสอบพยานโจทก์และจำเลยทุกปากแล้ว จึงมีคำพิพากษาให้นายปรีชา สุวรรณชาติ ต้องจ่ายเงินค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน  452 ล้านบาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้แก่นายสุนทร สุวรรณชาติ หรือ แพงไพรี ตั้งแต่วันถัดจากวันรับฟ้อง(วันฟ้อง 12 ธันวาคม 2562) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิน พร้อมทั้งจ่ายค่าทนายความจำนวนหนึ่งอีกด้วย

นายสุนทร สุวรรณชาติ หรือ แพงไพรี เปิดกับผู้สื่อข่าวว่า คำพิพากษาของศาลพิสูจน์ได้ว่าที่ผ่านมา ตนทำทุกอย่างตามหน้าที่ที่ได้มีสัญญาผูกพันกันไว้ โดยปฏิบัติตนเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับนายปรีชา ในฐานะพ่อบุญธรรม แต่การพยายามลบล้างการทำนิติกรรมทุกอย่างที่ทำไว้กับตนมันเหมือนเป็นการหักหลังตน เพราะนี่เป็นการพิสูจน์ว่ากฏหมายมีความศักดิ์สิทธิ์เสมอในขบวนการยุติธรรม

ทีมข่าว MC.news.com  รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา