จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความและรูปภาพในกลุ่มเฟซบุ๊ก “รักประชาธิปไตย” โดยระบุว่าถูก สรพงษ์ ชาตรี นักแสดงชื่อดังและศิลปินแห่งชาติ ไล่ออกจากวัดขณะเข้ามากราบไหว้หลวงพ่อโต ที่วัดโนนกุ่ม หรือวัดหลวงพ่อโต ใน อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เนื่องจากใส่เสื้อที่มีข้อความแสดงความคิดเห็นทางการเมือง “สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส”โดยระบุในเฟซบุ๊กว่า “สรพงษ์ ชาตรี วัดนี้ท่านสร้างด้วยเงินส่วนตัวหรือ สรพงษ์ ไม่พอใจผู้ที่มากราบหลวงพ่อโต ใส่เสื้อตัวนี้” จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์นั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มูลนิธิ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต ตำบลมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดย ได้พูดคุยกับกรรมการท่านหนึ่ง เผย สรพงษ์ ไม่มีพฤติกรรม ไล่คน ออกจากวัด เพราะเห็นต่าง หรือสีเสื้อทางการเมือง

โดยนายสมนึก เขียวงามดี กรรมการมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี และเป็นผู้ดูแลสถานที่ เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจกับข่าวที่ออกไป เพราะตน กลับสรพงษ์รู้จักกันมานาน ซึ่งสรพงษ์ไม่เคยมีพฤติกรรมที่จะไล่คน ออกจากวัด เพียงเพราะ เห็นคิดต่างทางการเมือง หรือใส่เสื้อสีที่เกี่ยวกับการเมือง เหตุการณ์ในวันนั้นตนก็อยู่ด้วย มีสุภาพสตรีที่อยู่ในรูปถ่าย มาขอถ่ายภาพร่วมกับสรพงศ์ เพื่อเอาไปเป็นที่ระลึก อันเป็นเรื่องปกติของคนที่มาทำบุญวัดนี้ แต่ในปัจจุบันได้มีการเว้นระยะห่าง ตามระเบียบที่ทางสาธารณสุขได้กำหนด เนื่องจากมีการระบาดของโรคโควิด 2019 07 จึงต้องมีฉากแผ่นใสกั้น ระหว่าคุณสรพงษ์ กับคนถ่าย ซึ่งก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน จนถึงวันนี้ก็มีข่าวดังกล่าวเกิดขึ้น

 สำหรับมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ไม่ได้ก่อสร้างด้วยเงินส่วนตัวของคุณสรพงษ์ แต่เป็นเงินที่ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาทั่วไปร่วมกันสร้างขึ้น โดยคุณสรพงษ์บริจาคสมทบจำนวนหนึ่ง มูลนิธิแห่งนี้มีกฎระเบียบไม่ชัดเจน ว่ากรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ทุกคนห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองตามระเบียบการจัดตั้งมูลนิธิฯ ส่วนกฏ ระเบียบการเข้ามาทำบุญก็ระบุไว้ชัดเจน ว่าห้ามแต่งตัวไม่สุภาพ ยกตัวอย่างเช่นใส่เสื้อกล้าม หรือใส่สายเดี่ยวมาวัดเท่านั้น ซึ่งหลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลก็มียังคนแห่เข้ามาทำบุญหนาตาขึ้นกว่าเดิม

ด้านนายมงคล แผ่นทองษ์ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในวัด เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องนี้ตนเองมองว่า เป็นการจัดฉาก เพื่อดิสเครดิต คุณสรพงษ์มากกว่า เพราะถ้าหากว่ามีการห้ามเข้า ก็คงจะไม่มีโอกาสเข้ามายืนถ่ายรูปตรงพื้นที่ตามภาพได้ และจากที่ดูในภาพแล้วก็ไม่เห็นมีอะไร เป็นการถ่ายรูปปกติ แต่ที่เอาไปลงในโซเชียล น่าจะเป็นการโพสต์ และเขียนข้อความใส่ร้ายเกินจริง  ซึ่งก็ถือว่าเป็นการทำลายมูลนิธิฯ และ พระพุทธศาสนาด้วย เพราะสถานที่นี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์  ซึ่งวันนี้ตนมาทำบุญ ก็ศรัทธา และเคารพนับถือสมเด็จพระพุทธจารย์โตอยู่แล้ว สำหรับเรื่องนี้ตนก็ไม่เห็นด้วย ที่จะมาดิสเครดิต คุณสรพงษ์แบบนี้เช่นกัน

ทีมข่าว MC.news.com รายงาน