เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 18 ก.ค. 63   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ อ.เมืองศรีสะเกษ   พล.ต.ต.คีรีศักดิ์  ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สันติ  เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ     พ.ต.อ.ชัยวัฒน์   หัดกล้า รอง.ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ นายณรงค์  อิสมาแอล  หน.ฝ่ายทะเบียนรถ รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ  และตัวแทนของ นายสมเกียรติ ศรีขาว นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่

โดยจับกุมผู้ต้องหาคือนายอมร ผิวเกลี้ยง อายุ 34 ปี ที่อยู่ 47 ม.6 ต.บางพระ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้าจำนวน 59 มัด (118,000 เม็ด)  ราคาประมาณ 1,800,000 บาท  ยาไอซ์ 1,325 กรัม  ราคาประมาณ 1,300,000 บาท อาวุธปืน ยี่ห้อ CZ ขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวน 62 นัด รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน ชฮ-8248 กรุงเทพมหานคร  1  คัน  ถุงหิ้วพลาสติก สีแดง จำนวน 1 ถุง  บัตรประจำตัวประชาชน นายอมร ผิวเกลี้ยง จำนวน 1 ใบ  ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ นายอมร ผิวเกลี้ยง จำนวน 1 ใบ  บัตร เอทีเอ็ม ธนาคาร ไทยพาณิชย์ หมายเลข  หลังบัตรระบุชื่อ กานต์สินี ทัตหวาด  จำนวน 1 ใบ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO สีขาว จำนวน 1 เครื่อง  โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์29 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ 

พล.ต.ต.สันติ  เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า ตำรวจมีการจับกุมยาบ้ายาไอซ์ได้จำนวนมากอย่างต่อเนื่องนั้น  เนื่องจากว่า  จ.ศรีสะเกษ เป็นจุดพักยาเสพติดที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนที่จะส่งยาเสพติดไปขายต่อที่จังหวัดอื่นต่อไป  เจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหารวม 7 ข้อได้แก่ 1.มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย  2.มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

3.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน 4.พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร  5. ต่อสู้ขัดขวางโดยใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าพนักงานผู้ซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่    6.ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานผู้ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ 7. ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม  (แผ่นป้ายทะเบียนปลอม)  จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สันติ  วงษาเกษ  รายงาน