วันที่ 30มีนาคม 2563 เวลา 13.30 น. ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ด้านหลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมนายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา น.พ. ชุติเดช ตาบ-องค์รักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช ร่วมชี้แจงแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง

นายวิเชียร ผวจ.นครราชสีมา ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา แถลงว่าจังหวัดนครราชสีมา มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อจำนวน จำนวน 408  ราย (เก่า390 +ใหม่18)   แบ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโรค COVID-19   จำนวน        15  ราย ( เดิม14+ตรวจพบใหม่ 1 ) ตรวจไม่พบเชื้อ  จำนวน 377  ราย (เพิ่มจากเดิม 15)  รอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ   จำนวน  16  ราย ทั้งนี้เป็นผลจากการดำเนินงานคัดกรองประชาชนจำนวน 35,559 ราย (ยอดสะสม ณ วันที่ 3 ม.ค -30 มี.ค. 2563 เวลา 12.30 น.) 

กรณีการเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ(PN) มีจำนวน 260 ราย ไม่ป่วย 260 ราย กักตัวครบ 14 วัน จำนวน 191 ราย ปัจจุบันติดตามต่อเนื่องจำนวน  69 ราย  จากข้อมูลโปรแกรม COVID 19 KORAT พบว่ามีผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดนครราชสีมา รายงาน จาก 32 อำเภอ  รวม 8,947 ราย เฝ้าระวังครบ 14 วันจำนวน 325 ราย ปัจจุบันติดตามต่อเนื่องจำนวน 8,622 ราย (ทั้งนี้การคัดกรองไข้ที่ด่านตรวจ 37.3 องศาเซลเซียสเป็นเกณฑ์)  

นายวิเชียร กล่าวอีกว่าจังหวัดนครราชสีมา ได้ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCOVID-19  นอกเหนือจากมาตรการ “ ล้างมือทั้งวัน  กินร้อน  ช้อนฉัน ห่างกัน 2 เมตร  และสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกคน” นอกจากนั้นยังได้ประกาศปิดหมู่บ้านท่าอ่าง หมู่3 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย เพื่อดำเนินการ HOME QUARANTINE  จำนวน 14 วัน สืบเนื่องจากพบผู้ป่วยในชุมชนจากครัวเรือนเดียวกันถึง 4 ราย คนในหมู่บ้านมีความเสี่ยงสูง โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้นำคณะทหาร ตำรวจ สาธารณสุข นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.เทศบาล และ อสม.ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่หาแนวทางในการดูแลและควบคุมป้องกันโรคCOVID-19  ซึ่งต้องใช้มาตรการในการดูแลอย่างรอบด้านในการดำรงชีพและเข้าออกหมู่บ้านอย่างเคร่งครัดต่อไป…

น.พ นรินทร์รัชต์ สสจ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงเส้นการสัมผัสเชื้อโควิด-19ของผู้ป่วยรายที่ 15 ว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นหญิง อายุ 42 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง นครราชสีมา เป็นพนักงาน“สปา” ให้บริการลูกค้าบนเรือสำราญของประเทศนิวซีแลนด์ ได้เดินทางกลับประเทศไทยตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ท้ายสุดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้ร่วมรับทานอาหารกับเพื่อนชาวเนเธอร์แลนด์ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเดินทางกลับประเทศไปแล้วในวันที่ 16  ส่วนผู้ป่วยรายที่ 15 ยังคงพักอาศัยอยู่ที่ กทม.จนกระทั่ง วันที่ 23 มีนาคม ปรากฏว่ามีอาการเป็นไข้เล็กน้อย

ต่อมาวันที่ 28 มีค. ผู้ติดเชื้อรายล่าสุดได้เดินทางกลับจังหวัดนครราชสีมา ขณะเดียวกันก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนชาวเนเธอร์แลนด์โทรมาบอกว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตนจึงได้รีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลมหาราช เพื่อตรวจหาเชื้อในวันที่ 29 มีค. ซึ่งแพทย์ได้ยืนยันผลตรวจว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 15 จึงได้รับตัวเข้าทำการรักษาในทันทีสำหรับการสืบสวนโรคพบว่ามีกลุ่ม “เสี่ยงสูง” 10 ราย ได้แก่คนในครอบครัวคือพ่อ-แม่ นอกจากนั้นก็มีพนักงานขับรถตู้โดยสาร พนักงานประจำรถและผู้โดยสารอื่นอีก 6 คน แยกเป็นชาวโคราช 2 คน  ต่างจังหวัด 4 คน โดยขณะนี้ทางศูนย์ควบคุมโรคฯสามารถติดตามตัวได้ครบทุกคนแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีรายงานความเสี่ยงสูงของผู้ป่วยติดเชื้อรายที่ 7 ที่เป็นหญิงอายุ 47 ปี เป็นพนักงานบริการในผับแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท กทม. ยังไม่สามารถติดตามตัวได้อีก 5 ราย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายแพทย์สาธารณสุขกล่าวว่า ทางศูนย์ฯพยายามตามตัวแต่ไม่พบ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้โดยสารที่ใช้บริการรถทัวร์ ปรับอากาศชั้น 1 สาย 21-22 กรุงเทพ-นครราชสีมาบริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด ต้นทางกรุงเทพฯ เที่ยวรถออกเวลา 04.45 น. ของวันที่ 19 มีค. ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจติดเชื้อจากผู้ป่วยรายที่ 7 ได้ จึงขอให้รีบติดต่อมาที่ สสจ.โคราช หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 081-2655604 โดยด่วนที่สุด

ทีมข่าว MC.news.com รายงาน