วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 เวลา 17.00 น. ที่ลานกิจกรรม ด้านหน้าศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีการจัดกิจกรรม ”เปล่งเสียงพระพุทธมนต์ เจริญจิตแผ่เมตตา อาลัยผู้จากลา T 21 โดยมี พระสาสนโสภณ ( หลวงพ่อใหญ่ ) วัดสุทธจินดาวรวิหาร พระเทพรัตนดิลก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ( ธรรมยุต ) วัดศาลาลอย พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา วัดบึง พระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา วัดพระนารายณ์มหาราช และหลวงพ่ออกัณหา สุขกาโม วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม เมตตา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นาย วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และได้รับความเมตตาจากคณะสงฆ์ธรรมยุต และมหานิกาย จังหวัดนครราชสีมา พระเถรานุเถระ จำนวน 10 รูป ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญภาวนา เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์โศกนาฎกรรม ที่ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ที่ผ่านมา โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่เข้าร่วมพิธีฯได้ร่วมสวดมนต์ ภาวนา และถวายมหาสังฆทานเพื่ออุทิศบุญใหญ่ในครั้งนี้ ซึ่งมี ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พี่น้องประชาชน และพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายวัดป่า นุ่งขาวห่มขาว เข้าร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมาก





นาย วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯโคราช กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นการร่วมใจกันของชาวโคราช เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์โศกนาฎกรรม ที่ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเป็นการทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้มีชีวิตที่เข้มแข็งมีความก้าวหน้าและการดำเนินชีวิตต่อไป และสำหรับทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 สมเด็จพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ได้พระราชทานความช่วยเหลือกับผู้ที่เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ มาโดยตลอด นอกจากนี้ยังได้รับความกรุณาจากคณะรัฐมนตรี นำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้เดินทางมาร่วมในพิธีทำบุญและเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ในจังหวัดนครราชสีมา ก็ต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวไทยรวมทั้งภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือญาติของผู้ที่เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ จำนวน 89,936,633 บาท จึงขออนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วย





นาย วิเชียร ยังกล่าวอีกว่า ความจริงแล้วทราบว่ายังมีอีกหลายท่านมีความประสงค์ที่จะบริจาคเพิ่มเติม แต่การทำงานทุกอย่างต้องรีบดำเนินการ เนื่องจากญาติของผู้ที่เสียชีวิต บาดเจ็บ มาจากหลายครอบครัวและมาจากหลายพื้นที่ การบริหารจัดการกับเงินบริจาคจึงต้องทำด้วยความรวดเร็ว และทำด้วยความโปร่งใส มีการชี้แจงให้พี่น้องประชาชนทั่วไปได้รับทราบการใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ และไม่มีการนำเงินบริจาคเหล่านี้มาจัดกิจกรรม หรือจัดตั้งกองทุน หรือนำไปใช้อย่างอื่น ทุกบาททุกสตางค์เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้ที่บริจาคเงิน ที่ต้องการให้เงินบริจาคเหล่านี้ไปถึง ครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งปัจจุบันยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จำนวน 4 ราย ที่อยู่ในห้องไอซียู ทางจังหวัดยังคงติดตามเยี่ยมผู้บาดเจ็บอย่างต่อเนื่องทุกวัน นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการฯ หน่วยงาน ทหาร ตำรวจ กาชาดจังหวัด ได้ออกไปเยี่ยมครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเพื่อติดตามความเป็นอยู่ของแต่ละครอบครัวด้วย





ทีมข่าว MC.news.com รายงาน