หลังจากจังหวัดนครราชสีมา ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานธรณีโลก ภายใต้ชื่อ UNESCO Global Geopark ทำให้มีพื้นที่ที่เป็นมรดกโลกอยู่ภายในจังหวัดเดียวกันถึง ๓ แห่ง ประกอบด้วย มรดกโลกผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ พื้นที่สงวนชีวมณฑลโลกสะแกราช และอุทยานธรณีโลกโคราช ซึ่งสามารถเชื่อมโยงการเดินทางท่องเที่ยวเป็นวงแหวนแหล่ง ๓ มรดกโลก เป็นเส้นทางท่องเที่ยวใหม่เข้าสู่จังหวัดนครราชสีมา และเพื่อเป็นการเปิดการเดินทางท่องเที่ยวนำร่อง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงกำหนดจัดกิจกรรม อ.ส.ท. ชวนเที่ยว “ขุนเขาโคราช เมือง ๓ มรดกโลกยูเนสโก” (UNESCO Triple Heritage City) จังหวัดนครราชสีมา  ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๖

 วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๖ นางสาวสุดาวรรณ  หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้นำทริปทัวร์ มาที่ จ.นครราชมีมา พร้อมให้สัมภาษณ์อนุสาร อ.ส.ท. และสื่อมวลชน  ณ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง โดยมี นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้บริหาร กฟผ. ให้การต้อนรับ

นางสุดาวรรณ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาได้กล่าวถึง การส่งเสริมเฉพาะพื้นที่เขื่อนลำตะคองที่จะมีโครงการสร้างจุดชมวิวแห่งใหม่”สกายวอล์กและกระเช้าลอยฟ้าลำตะคองเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดนครราชสีมาที่สอดรับกับการพัฒนาเมืองอีกทางหนึ่ง เรามีอุทยานธรณีที่มีคุณค่าถึงมรดกโลกแล้ว การสร้างสกายวอล์กลำตะคองจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ เป็นจุดชมวิวที่งดงามอีกแห่งของเมืองไทยที่ทำให้เรื่องราวทางธรณีวิทยาสามารถสัมผัสได้ง่ายขึ้น

“การท่องเที่ยว บนจุดชมวิวสามารถมองเห็นเขื่อนลำตะคอง เห็นความหลากหลายในความงดงามของภูมิประเทศ มองเห็นความก้าวหน้าทางเทโนโลยีและคมนาคมของเมืองไทย ผ่านมอเตอร์เวย์และรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่กำลังเร่งก่อสร้างและหากมีการเชื่อมจุดชมวิวต่าง ๆ ด้วยกระเช้าลอยฟ้า ตั้งแต่โรงไฟฟ้าพลังน้ำลำตะคอง เขายายเที่ยงเขาพริก ก็เท่ากับว่าเราสามารถรวมเอาความงดงามและคุณค่าในภูมิประเทศมาผนวกร่วมเข้ากับการท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว”

“อย่างไรก็ตามการออกแบบและก่อสร้างต้องวางอยู่บนรากฐานของการไม่กระทบสภาพความเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น A ของฝืนป่าลำตะคอง ต้องมีกิจกรรมและจุดรองรับต่าง ๆ ในการเชื่อมโยงสองฝั่งลำตะคองเข้าด้วยกันของกระเช้าไฟฟ้า จะนั้นการผลักดันให้เกิด “สกายวอล์ก”ต้องผ่านกระบวนการต่างๆและจะต้องไม่ไปกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด และหากทำสำเร็จเมื่อไหร่  โคราชและเมืองไทยก็จะมีแลนด์มาร์กทางการท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เต็มไปด้วยความสวยงามและมีคุณค่าที่ใครต่อมใครก็ควรเดินทางมาเที่ยวชมและศึกษาเรียนรู้”นางสุดาวรรณ กล่าว

ทีมข่าว MC.news.com รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา