เกจิอาจารย์ดังทำพิธีปลุกเสก“กระบองไม้กายสิทธิ์หลวงพ่อคูณ” โดยมีนายสุวัจน์  ลิปตพัลลภ เป็นประธานเททองหล่อ “ในโอกาสครบรอบ 100 ปี ชาตกาล เชื่อ! พลังความรักและศรัทธาของพี่น้องประชาชน จะสามารถสร้างหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ได้สำเร็จอย่างแน่นอน

วันที่  7 ตุลาคม 2566 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์โครงการจัดสร้างรูปหล่อพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ องค์ใหญ่ เป็นประธานพิธีเททองหล่อกระบองไม้กายสิทธิ์ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธองค์ใหญ่ ณ วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยมีนายสนอง หวังหยิบกลาง ประธานกรรมการบริหาร โครงการวัดบ้านไร่สร้างหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธองค์ใหญ่ และคณะกรรมการดำเนินงานบริหารโครงการฯ พร้อมด้วยญาติโยมศิษยานุศิษย์ โยมอุปถัมภ์ต่างสวมใส่เสื้อผ้าชุดขาวร่วมพิธีกว่า 500 คน

โดยพิธีเททองหล่อ “กระบองกายสิทธิ์ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ใหญ่ที่สุดในโลก“ เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการ วัดบ้านไร่ สร้างหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธองค์ใหญ่ มีขนาดหน้าตักความกว้าง 19 เมตร ความสูง 27 โดยกระบองฯ มีรูปแบบเป็นลักษณะกระดาษม้วนเคาะหัวกายสิทธิ์ขนาดความยาว 15.5 เมตร เส้นผ้าศูนย์กลาง 1.2 เมตร หล่อด้วยเนื้อทองเหลือง โดยช่างหล่อทั้ง  8 ช่าง สลักชื่ออันเป็นมงคลได้แก่ อยู่ เย็น เป็น สุข ร่ำ รวย เงิน ทอง

พิธีปลุกเสกได้รับมหากรุณาจากพระชั้นผู้ใหญ่ พระพรหมวรธีรคุณ เจ้าคณะภาค 11 เจ้าอาวาสวัดทองนพคุณกรุงเทพมหานคร ประธานกรรมการที่ปรึกษากิตติมศักดิ์โครงการฯ ประธานฝ่ายสงฆ์ ประธานพิธี , พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะ จ.นครราชสีมา , พระภาวนาประชานาถ(เจ้าคุณนุช รตนวิชโย) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ และ ครูบาอริยชาติ อริยจิตโตเจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จาก จ.เชียงราย ร่วมพิธี

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ทางคณะกรรมการจัดสร้างฯ ได้เลือกแบบองค์หลวงพ่อ จากท่าทางและบุคลิกของท่านที่อยู่ในความทรงจำ คือท่านจะนั่งยอง ถือกระบองกายไม้กายสิทธิ์เคาะศีรษะให้กับพี่น้องประชาชนที่มาขอพรจากท่าน วันนี้จึงเป็นอีกวันที่สำคัญ คือการเททองหล่อกระบองไม้กายสิทธิ์หลวงพ่อคูณ และหลังจากนี้ก็จะมีการก่อสร้างหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ต่อไปให้แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามแม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ค่อยดี แต่เชื่อมั่นว่าด้วยพลังความรักความศรัทธาของพี่น้องประชาชนที่มีต่อหลวงพ่อคูณ จะสามารถสร้างได้สำเร็จลุล่วงอย่างแน่นอน 

“วัดบ้านไร่มีสิ่งปลูกสร้างสำคัญที่เป็นอนุสรณ์ความผูกพันระหว่างหลวงพ่ออยู่ 3 แห่ง คือ 1. วิหารเทพวิทยาคม ตั้งอยู่กลางน้ำ และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 2. พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และ 3.หลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ ฉะนั้น ต่อไปพุทธศาสนิกชน หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการท่องเที่ยวเชิงศาสนา ศิลปวัฒนธรรมก็สามารถจะมาที่วัดบ้านไร่ได้ เพราะมีความครบถ้วนสมบูรณ์ที่สามารถเรียนรู้ โดยเฉพาะหลักธรรมคำสอนของหลวงพ่อที่เราได้ยินอยู่เสมอ คือ  อย่าประมาท อย่าโลภ อย่าให้เงินเป็นเจ้าของ  ยิ่งให้ก็ยิ่งมี และท่านย้ำเสมอว่าอย่ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด”นายสุวัจน์กล่าว

Cr:กัญศลักษณ์ รุ่งสุขประเสริฐ/สำนักข่าว MC.news รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา