วันที่ 9 ตุลาคม 2566 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางไปที่บ้านพักภูมิลำเนาของแรงงานไทยชาวนครราชสีมา ที่ได้รับภัยสงครามในประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็น 1 ใน 11 คนที่ถูกควบคุมตัว โดยมีนางสุฐิดา วิริยะกุลนันท์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ที่ได้รับมอบหมายจาก นางอรจิรา ศิริมงคล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าสถานีกาชาดที่ 4 นครราชสีมา พร้อมคณะกรรมการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา นายสามารถสุวรรณมณี ปลัดจังหวัดนครราชสีมา นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ แรงงานจังหวัดนครราชสีมา และ หัวหน้าหน่วยงานกระทรวงแรงงาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
ทั้งคณะได้เข้าเยี่ยมพบให้กำลังใจคุณแม่สุรางคณา ขุนศรีอายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 5 ต.หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา โดยที่ลูกชายคือนายพงษธร ขุนศรี อายุ 25 ปี แรงงานไทยในประเทศอิสราเอล ซึ่งขณะนี้เกิดภาวะสงครามยังไม่สามารถติดต่อกับลูกชายได้ในขณะที่เพื่อนๆอีก 6 คนติดต่อได้และปลอดภัย เบื้องต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้มอบ เงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค และหน่วยงาน พัฒนาสังคม จะได้เสนอเรื่องให้ความช่วยเหลือต่อไป
จากข้อมูลแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบในประเทศอิสราเอล โดยในลำดับที่ 19 แรงงานที่ถูกควบคุมตัว คือ นายพงษธร ขุนศรี บ้านเลขที่ 90 หมู่ 5 ต.หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ตำบลหนองยาง โดยวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา อาสาสมัครแรงงาน และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง ท้องถิ่นได้ลงพื้นที่ไปพบมารดาของแรงงาน ชื่อนางสุรางคณา ขุนศรี อายุ 57 ปี เพื่อแจ้งข่าวแก่มารดาของนายพงษ์ธร ได้ทราบ โดยขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไทยจะคุ้มครอง ดูแลแรงงานไทยอย่างดีที่สุด และจะเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ นางสุรางคณา ฯ มีบุตร 3 คน อายุ 28 ปี 25 ปี และ 22 ปี ตามลำดับ โดยนายพงษธร เป็นบุตรคนที่ 2 ไปทำงานที่อิสราเอลตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565
ยอดผู้เสียชีวิตชาวไทยในอิสราเอล รวม 18 ราย พร้อมขอความประสงค์กลับไทยกว่า 3,000 คน โดยนายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล โดยได้รับรายงานว่า มียอดผู้เสียชีวิตคนไทยเพิ่มขึ้นอีก 6 ราย จาก 12 ราย รวมเป็น 18 ราย แต่ทางการอิสราเอลยังไม่สามารถเข้าในพื้นที่ได้ จึงยังไม่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ เบื้องต้น มีคนไทยแสดงความประสงค์ขอกลับไทยกว่า 3,000 คน และสามารถอพยพคนไทยออกจากพื้นที่เสี่ยงมาได้ประมาณ 5,000 คน จากทั้งหมดประมาณ 30,000 คน
.
ทั้งนี้ การอพยพคนไทยเดินทางกลับประเทศ ยังคงใช้สายการบินพาณิชย์ และเครื่องเช่าเหมาลำในการอพยพ รวมถึงอาจจะเช่าเหมาลำการบินไทยจากประเทศไทยไปลงสนามบินอิสราเอล เพราะเครื่องบินทหารยังไม่สามารถลงจอดได้ และตอนนี้การสู้รบเริ่มเข้ามาใกล้สนามบินแล้ว
Cr:ปชส.นม./สำนักข่าว MC.news รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา