งบ ‘เหลื่อมปี อบจ.โคราช’ ฉบับที่ 2 วาระ 2-3 ผ่านสภาฉลุยไร้เทียม เมื่อสมาชิกสภาส่วนใหญ่เห็นชอบให้ฝ่ายบริหารนำเงิน 213.6ล้านบาท ที่เพิ่งได้รับจากการจัดเก็บรายได้ล่าสุด มาพัฒนาโคราชเร่งด่วนโดยบรรจุเป็นโครงการต่างๆครบทุกด้าน  โดยก่อนหน้านี้นางยลดา หวังศุภกิจโศล นายก อบจ.ลงพื้นที่ด้วยตัวเองสำรวจโครงสร้างพื้นฐานที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และบรรจุงบประมาณในการพัฒนาเมืองในทุกด้าน ตามนโยบาย “โคราชโฉมใหม่” แต่ต้องมีการโอนโครงการต่างๆในปีถัดไป เนื่องจากตรงกับสิ้นปีงบประมาณพอดี

วันที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 14.00 น.สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)นครราชสีมา จัดประชุมสภาฯ สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 5/2566 มีระเบียบวาระการประชุม 4 วาระ โดยฝ่ายสภาประกอบด้วย นายรักชาติ กิริวัฒนศักดิ์ ประธานสภา อบจ. พร้อมรองประธานสภา เลขานุการสภาได้ประกาศให้มีการประชุมขึ้น  โดยฝ่ายบริหาร ประกอบด้วย นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. พร้อมรองนายก อบจ.  และสมาชิกสภา อบจ.นครราชสีมา จำนวน 43 คน ลาประชุม 5 คน จากจำนวนสมาชิกสภาฯ ทั้งสิ้น จำนวน 48 คน นอกจากนี้ ยังมีหัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภา สำนักช่าง อบจ.นครราชสีมา

การประชุมดำเนินมาถึงระเบียบวาระการประชุมที่ 3 เรื่องเพื่อพิจารณาญัตติ เรื่อง ขอความเห็นชอบพิจารณาร่างข้อบัญญัติ อบจ.นครราชสีมางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เม็ดเงินงบประมาณทั้งสิ้น 213,654’200 บาทเศษในวาระที่2-3 หลังจากที่สภาได้มอบหมายให้นายโกวิทย์ เลาวรรณย์ศิริ ประธานฯและนายชาคริส ทิศกลาง เลขานุการ คณะกรรมการแปรญัตติ ได้แจ้งต่อที่ประชุมสภาฯว่า ได้มีการตรวจร่างงบประมาณรายจ่ายในทุกมิติแล้ว ปรากฏว่าเป็นไปตามระเบียบราชการและไม่มีสมาชิกผู้ใดสงวนความเห็นในการแปรญัตติเพื่อขออภิปราย จึงได้เสนอต่อสภาเพื่อลงมติตามหลักการต่อไป

จากนั้นนายรักชาติ กิริวัฒนศักดิ์ ประธานสภาจึงให้มีการลงมติ ปรากฏว่ามีสมาชิกในที่ประชุม 42 คน เห็นชอบ 38 คน งดออกเสียง 4 คน ทั้งนี้งบประมาณดังกล่าวจะได้นำเสนอต่อนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายการเงินเพื่อนำเม็ดเงินมาใช้พัฒนาจังหวัดนครราชสีมาต่อไป อย่างไรก็ตามในเดือนกันยายนนี้จะเป็นเดือนที่สิ้นปีงบประมาณ 2566 ฝ่ายบริหารไม่สามารถดำเนินโครงการต่างๆได้ทัน และงบประมาณจำนวน 213 ล้านบาทก็จะตกไปเป็นเงินสะสมทางการคลัง ไม่สามารถนำมาใช้ได้ในปีต่อไป แต่หากจะนำมาใช้ก็จะต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นในหลายขั้นตอน จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะนำเม็ดเงินมาพัฒนาโครงการต่างๆได้ ตั้งนั้นสภาจะต้องใช้อำนาจในการยื่นญัตติของกันโอนเงินงบประมาณไว้ เพื่อดำเนินโครงการๆในปีต่อไปได้ ทั้งนี้เป็นไปตามระเบียบของกระกระทรวงมหาดไทยที่กำหนด

นอกจากนั้นยังมีการเสนอญัตติ เรื่อง ขออนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำชี้แจงงบประมาณรายจ่ายในงบลงทุน ที่ทำให้ลักษณะ ปริมาณ คุณภาพเปลี่ยน หรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้าง ให้เป็นอำนาจอนุมัติของสภาท้องถิ่นนั้น ในที่ประชุมมีสมาชิกจำนวน 43 คน อนุมัติ 39 คน งดออกเสียง 4 คน สุดท้ายเป็นญัตติ เรื่องขออนุมัติโอนเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โอนครั้งที่ 34 มีสมาชิกในที่ประชุม 43 คน อนุมัติ 39 คน งดออกเสียง 4 คน

สำนักข่าวMC.news.รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา