ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 7 กันยายน 65  นาย กิติกุล เสภาศีราภรณ์  ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา สำนักงานชลประทานที่ 8 ได้เปิดเผยถึง การบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำและลุ่มน้ำในเขตจังหวัดนครราชสีมา  กับผู้สื่อข่าวว่า  เป็นที่ทราบกันดีว่าในปีนี้ฤดูฝนมาเร็ว  และปัจจุบันปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในอ่างต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา อยู่ที่ประมาณ  906 มิลิเมตร ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,100  หรือประมาณ 88 %  ขณะที่ ณ ตอนนี้เข้าสู่เดือนกันยายนแต่มีปริมาณฝนมาเกือบ 90 % แล้ว   ทำให้มีปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่าง อยู่ที่ประมาณ   781 ล้าน ลบ.ม. หรือ 62 %  เฉลี่ยทั้งปี  ดังนั้นทาง โครงการชลประทานนครราชสีมา สำนักงานชลประทานที่ 8 จึงได้มีการบริหารจัดการน้ำ มีการส่งน้ำเพื่อการเกษตร   และส่งน้ำนอกเขตชลประทานเพื่อให้น้ำที่จะต้องพล่องลงมาเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด กับภาคการใช้น้ำต่าง ๆ  มีการปล่อยน้ำลงมาปัจจุบันสะสมอยู่ที่ประมาณ 1,022 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเกือบเท่ากับน้ำท่าที่เข้ามาในอ่างเก็บน้ำ ทำให้ปัจจุบันมีค่าเฉลี่ยน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ทั้ง 4 แห่ง   ขนาดกลาง 23 แห่ง   อยู่ที่ 827 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมด  1,216 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 67 %

สำหรับอ่างเก็นน้ำขนาดใหญ่ ทั้ง 4 แห่ง  ไม่มีปัญหาอะไร เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ที่ค่าประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ของความจุ  ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 23 แห่ง  ปัจจุบันยังมีการไหลผ่านทางระบายน้ำฉุกเฉิน อยู่ 3 แห่ง ได้แก่อ่างเก็บน้ำลำเชียงสา   อ่างเก็บน้ำยางพะไล  อ่างเก็บน้ำห้วยสะกาด และยังมีอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำระหว่าง 80 -100 % มีอยู่จำนวน 8 แห่ง คือ อ่างฯหห้วยบ้านยาง  อ่างห้วยยาง  อ่างฯลำสำลาย  อ่างฯบ้านสันกำแพง อ่างฯห้วยน้ำเค็ม  อ่างฯบึงกระโตน  อ่างฯห้วยบง  อ่างฯลำฉมวก  ดังนั้นจึงสังเกตได้ว่ามีปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างฯ  มีค่อนข้างมาก  ดังนั้นการบริหารจัดการต้องพยายามรักษาระดับให้อยู่ใกล้เคียงกับเกณฑ์ในการควบคุมน้ำในอ่างฯ  ซึ่งเกิดมาจากสถิติต่าง ๆ

ซึ่งหากมีการเก็บกักน้ำฝนปริมาณที่มากเกินไปก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย   แต่หากเก็บกักน้ำในปริมาณที่น้อยเกินไปหรือต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด  ก็จะมีความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำในฤดูกาลถัดไป    ดังนั้นการบริหารจัดการน้ำในอ่างฯก็ยังคงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด  เพราะทาง โครงการชลประทานนครราชสีมา สำนักงานชลประทานที่ 8 ได้มีการรักษาระดับใรการควบคุมน้ำในอ่างฯให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่   ส่วนอ่างเก็บน้ำที่ล้นก็จะมีการบริหารจัดการด้วยการหาจังหวะในห้วงที่ปลอดฝน  หรือช่วงที่ฝนทิ้งช่วงฝทำการปล่อยน้ำ เพื่อให้ปริมาณน้ำอยู่ในระดับที่ควบคุม  ดังนั้นการบริหารจัดการน้ำในอ่างฯทั้ง 27 แห่งก็ยังไม่มีข้อบ่งชี้ที่จะทำให้ต้องวิตกกังวล  แต่เพื่อเป็นการเฝ้าระวังจากสถานการณ์จากน้ำฝนที่มาไว ในพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีฝนตกซ้ำ  ก็จะทำให้เกิดดินอิ่มน้ำ  และช่วงนี้เป็นช่วงที่มรสุมกำลังแรงและมีความกดอากาศสต่ำ  เป็นไปตามที่กรมอุตุฯคาดการณ์โดยเฉพาะในภาคอีสาน   ก็ต้องมีการเฝ้าระวังเพราะหากเกิดฝนตกต่อเนื่องสะสมมาก ๆ   ก็ต้องเฝ้าระวังในเรื่องของน้ำป่าไหลหลากด้วย  เนื่องจากปีนี้ฝนได้ตกในลักษณะที่เป็นจุด ๆ   และมีความเข้มสูงคือมีการตกเป็นช่วงเวลาไม่มากนักแต่มีปริมาณน้ำมาก  ดังนั้นจึงต้องเฝ้าระวังในเรื่องของน้ำป่าไหลหลากด้วย   และควรติดตามสถานกาณณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ข่าว MC.news.com รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา