ล่าสุดตรวจพบในชุมชนจากการตรวจ PCR+ 43 ราย และยังมีผลตรวจ ATK+ 841 ราย รวม 884 ราย มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงวัย 60 เกิดติดเชื้อหมอให้ยา Favipiravir “ฟาวิพิราเวียร์” จำนวน 1ชุดกิน 5 วัน และกักตัวที่บ้าน แต่เชื้อไม่หยุดนำส่ง โรงพยาบาล มทส.กับ รพ.เทพรัตน์ ยื้อชีวิตไม่อยู่เสียชีวิตในที่สุด!! ล่าสุด กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กำหนด มาตรการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวน 3 กลุ่ม เริ่มจากการคัดกรองผู้ป่วยอาการธรรมดา, ผู้ป่วยอาการรุนแรง และผู้ป่วยทั่วไป ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านโรคติดเชื้อไวรัสโควิดโคโรน่า 2019 เขาสู่โหมด “โรคประจำถิ่น”!!
รายงานจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับ คณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ จากคณะแพทยศาสตร์ราชวิทยาลัย สมาคมวิชาชีพ และภาคส่วนต่างๆ ได้ร่วมจัดทำแนวทางปฏิบัติสำหรับสถานพยาบาลในช่วงระยะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โรคประจำถิ่น โดยมีเป้าหมาย คือ 1) ช่วยให้ระบบการให้บริการทางการแพทย์และการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 สามารถรองรับกับสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อ เพื่อการเข้าถึงการวินิจฉัยและการรักษาได้อย่างรวดเร็ว และลดอัตราการเสียชีวิต รวมถึง 2) ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบการให้ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด 19 หลังรักษาหายหรือภาวะ Long COVID และการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคทั่วไป ได้อย่างรวดเร็ว และ ปลอดภัยทั้งนี้ มาตรการในระยะแรก เริ่มจากการตรวจคัดกรองโรคโควิด 19 ในผู้ป่วยทั่วไปและบุคลากรทางการแพทย์ โดยสรุปมาตรการด้านการรักษา จะแบ่งการดูแลผู้ป่วยเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1) กรณีผู้ป่วยโควิด ประกอบด้วย มาตรการการเตรียม การคัดกรองผู้ป่วย การตรวจวินิจฉัย การดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด ในกลุ่มอาการต่างๆ จะเน้นใน เรื่อง ของ Outpatient self Isolation ถ้าอาการมากขึ้น เข้ารับการรักษา ใน โรงพยาบาล Cohort Covid ward รวมถึง การดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ระบบส่งต่อผู้ป่วยโควิด และมาตรการการสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ 2) กรณีผู้ป่วยมีเสี่ยงต่ออาการรุนแรง รวมถึง ภาวะ Long COVID เน้นการประเมินอาการของผู้ป่วยที่สงสัยเป็นLong Covid-19 และให้การรักษา การเฝ้าระวัง และ ติดตามช่วยเหลือ
3) กรณีผู้ป่วยทั่วไป เริ่มจากมาตรการการคัดกรองผู้ป่วย ในด้านต่างๆ ได้แก่ การดูแลผู้ป่วยก่อนทำผ่าตัด (Pre-operation) การดูแลผู้ป่วยที่ห้องฉุกเฉิน (ER) การดูแลผู้ป่วยที่ต้องทำหัตถการ ที่มีระยะเวลานาน การรับผู้ป่วยเข้านอนรักษาในโรงพยาบาล (IPD) การส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล เป็นต้นทั้งนี้ หาก สถานการณ์ปรับเปลี่ยน ข้อมูลต่างๆ มากขึ้น อาจปรับมาตรการเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ สามารถติดตามในจากเว็บไซต์ ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข www.dms.go.th
นายชูศักดิ์ ชุนเกาะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้รับมอบหมายจากนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.โคราชให้มาเป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และ คณะอนุกรรมการป้องกันตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีนายแพทย์สมบัติ วัฒนะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพร้อมคณะได้แถลงถึงสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธ์ “โอมิครอน” ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2565 โดยพบว่ามีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ชุมชนรายใหม่ PCR+ 43 ราย และยังมีผลตรวจ ATK+ 841 ราย รวม 884 ราย เป็นการติดเชื้อในจังหวัดทั้งหมด โดยมีผู้ป่วยอาการสีเขียว 876 ราย ผู้ป่วยอาการสีเหลือง 8 ราย จากสถานการณ์นี้ทำให้ จ.นครราชสีมา มีผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 65 รวม 182,008 ราย รักษาอยู่ 10,473 ราย รักษาหายสะสม 171,245 ราย เสียชีวิตสะสม 292 ราย +ตั้งแต่เริ่มระบาดในโคราช รวม 572 ราย
โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิต 1ราย เป็นรายที่ 292 ของ จ.นครราชสีมา เพศหญิง อายุ 60 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ปฏิเสธการ มีโรคประจำตัว แต่มีประวัติเป็นโรคHIV แต่ไม่มีประวัติการรักษา มีประวัติเคยฉีดวัคซีน 2 เข็มเป็น Astra ติดเชื้อโควิด-19 จากคนในครอบครัว เมื่อ 1 พฤษภาคม 65 ไปรับการรักษาที่ รพ.กรุงเทพ โดยรับยา Favipiravir “ฟาวิพิราเวียร์” มารับทานจำนวน 1ชุด 5 วัน และกักตัวที่บ้าน ต่อมาวันที่ 16 พค.65 ยังมีอาการเหนื่อยเพลีย มีไข้ ไม่มีแรง กินได้น้อย แถมไอมีเสมหะ ญาติจึงเรียกรถฉุกเฉินนำส่ง รพ.มทส.ฯ หมอทำการตรวจด้วยATKพบว่าติดเชื้อ และให้ยารักษาตามอาการและกลับไปกักตัวที่บ้าน ต่อมาวันที่ ญาตินำส่งโรงพยาบาลเทพรัตน์ฯ พบว่ามีอาการเหนื่อยหอบรุนแรง ไอหนักและขับเสมหะไม่ได้ มีภาวะปอดอักเสบ ใส่เครื่องช่วยหายใจ และถึงแก่กรรมในวันที่ 7 มิถุนายน 2565
รายงานได้แบ่งผู้ติดเชื้อตามรายอำเภอจากผลผลตรวจ PCR และ ATK พบว่า อ.เมือง มีผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุด จำนวน 122 ราย รองลงมาเป็น อ.โนนสูง 122 รายถัดไปเป็น อ.โนนไทย 75 ราย, อ.ห้วยแถลง 48 ราย, อ.ปกธงชัย 46 ราย, อ.ด่านขุนทด 45 ราย, อ.ประทาย 35 ราย, อ.คง 35 ราย, อ.สีคิ้ว 29 ราย, อ.บัวใหญ่ 26 ราย, อ.เสิงสาง 25 ราย , อ.ลำทะเมนชัย 24 ราย, อ.เมืองยาง 20 ราย, อ.แก้งสนามนาง 19 ราย, อ.เทพารักษ์ 19 ราย, อ.บ้านเหลื่อม 18 ราย, อ.เฉลิมพระเกียรติ 18 ราย, อ.ชุมพวง 17 ราย, อ.ขามทะเลสอ 17 ราย, อ.ขามสะแกแสง 16 ราย, อ.หนองบุญมาก 16 ราย, อ.ปากช่อง 15 ราย, อ.สูงเนิน 14 ราย, อ.จักราช 14 ราย, อ.วังน้ำเขียว 12 ราย, อ.สีดา 8 ราย, อ.พิมาย 7 ราย, อ.พระทองคำ 7 ราย,อ.โชคชัย 7 ราย, อ.โนนแดง 6 ราย, อ.บัวลาย 2 ราย
ทีมข่าว MC.news.com รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา