ยอดติดเชื้อโควิดเมืองโคราชยังรุนแรงต่อเนื่อง วันนี้พบ 1,194 ราย จากการติดเชื้อในชุมชนรายใหม่ ที่มีผล PCR+ 568 ราย และยังมีผลตรวจ ATK +626 ราย พบว่าผู้เสียชีวิตเซ่นโควิด-19 อีก 1 รายเพิ่มยอดตาย 53 ราย เช่นเคยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน การติดเชื้อทิ่อำเภอเมืองมียอดสูงสุดจากการตรวจหาเชื้อทั้ง 2 ระบบพบติดเชื้อเหยียบ 300 ราย ผู้ป่วยวันนี้เป็นผู้ป่วยที่มีอาการสีเหลืองจำนวน 119 ราย เป็นผู้ป่วยสีเขียว 1,075 ราย ไม่มีผู้ป่วยสีแดงที่มีอาการหนัก ขณะที่ภาพรวมทั้งจังหวัดมีผู้ป่วยรักษาอยู่ในโรงพยาบาลหลัก 1,888 ราย รักษาอยู่โรงพยาบาลสนาม 200 ราย รักษาอยู่ในชุมชนแบบ (CI)จำนวน 1,761 ราย รักษาตัวอยู่ที่บ้าน (HI)จำนวน 6,644 ราย และเป็นผู้ป่วยแบบ OP-SI จำนวน 207 ราย !!!
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และ คณะอนุกรรมการป้องกันตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้แถลงถึงสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธ์ “โอมิครอน” ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 13 มี.ค. 65 ว่ามีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ชุมชนรายใหม่ จากผลตรวจ PCR+ 568 ราย และยังมีผลตรวจ ATK +626 ราย รวม +1,194 ราย แยกเป็นผู้ติดเชื้อนอกเขตจังหวัด 26 ราย เป็นผู้ป่วยเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงกรุงเทพมหานครฯ 8 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดระยอง 5 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดชลบุรี 3 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดปทุมธานี 3 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยงสมุทรปราการ 3 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยง บุรีรัมย์-ลพบุรี-สุพรรณบุรี-สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา 1,168 ราย
จากสถานการณ์นี้ทำให้จังหวัดนครราชสีมา ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 65 รวม 65 รวม 31,523 ราย ยังรักษาอยู่ 10,700 ราย รักษาหายสะสม 20,770 ราย เสียชีวิตสะสม 53 ราย และในวันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย คือรายที่ 53 ของ จ.นครราชสีมา เพศชาย อายุ 65 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.โคกกรวด อ.เมือง ติดเชื้อโควิด-19 มีโรคประจำตัว เสียชีวิต ที่ รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา
ในรายงานได้แบ่งผู้ป่วยติดเชื้อตามรายอำเภอจากผลการตรวจ PCR พบว่าอ.เมือง มีผู้ติดเชื้อสูงสุด147 ราย ถัดไปเป็น อ.ปากช่อง 82 ราย, อ.สูงเนิน 65 ราย, อ.คง 47 ราย, อ.ลำทะเมนชัย 34 ราย, อ.บัวใหญ่ 29 ราย, อ.จักราช 27 ราย, อ.โนนสูง 24 ราย, อ.ประทาย 19 ราย, อ.หนองบุญมาก 17 ราย, อ.เสิงสาง 16 ราย, อ.แก้งสนามนาง 16 ราย, อ.เมืองยาง 12 ราย, อ.ครบุรี 11 ราย, อ.โชคชัย 7 ราย , อ.เฉลิมพระเกียรติ 7 ราย, อ.บัวลาย 3 ราย, อ.สีคิ้ว 2 ราย, อ.ปักธงชัย 2 ราย และ อ.สีดา 1 ราย
ส่วนผลการตรวจ ATK ยังคงเป็น อ.เมือง ที่มียอดติดเชื้อสูงสุดจำนวน 134 ราย ถัดไปเป็น อ.สีคิ้ว 116 ราย และ อ.พิมาย ที่มียอดติดเชื้อค้างจากวันวานรวม 87 ราย, อ.ปักธงชัย 86 ราย, อ.วังน้ำเขียว 61 ราย, อ.ขามสะแกแสง 43 ราย, อ.ประทาย 31 ราย, อ.ขามทะเลสอ 22 ราย, อ.ชุมพวง 17 ราย, อ.บัวลาย 11 ราย , อ.สีดา 10 ราย และ อ.โชคชัย 8 ราย
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาตั้งข้อสังเกตถึงการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ที่มีอายุตั้งแต่ 60ขึ้นไป บางรายเป็นผู้ที่เสียชีวิตที่อยู่ในกลุ่ม 608 คือมีโรคประจำตัวทั้ง 8 โรค ที่สำคัญก็คือผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีนเลย คณะกรรมทการควบคุมโรคติดต่อจึงได้มอบนโยบาย ให้หน่วยบริการฉีดวัคซีน ได้มีการประชาสัมพันธ์ เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ได้มาฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งก็มีทั้งการกระตุ้นการฉีดวัคซีนเข้ม 3 เพื่อเป็นกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกัน และประสัมพันธ์เรียกร้องให้ชาวสบ้านในอำเภอต่างๆที่มีผู้เฒ่าผู้แก่อยู่ในบ้านให้นำมาฉีดวัคซีนเพื่อป้องการติดเชื้อจนเสียชีวิต
ล่าสุดมีรายงานจากคณะกรรม การโรคติดต่อแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบ ปรับโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-2019 ให้เป็นโรคประจำถิ่นโดยให้ เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค. 65 กรอบการดำเนินการได้แบ่งระยะของโควิดเป็นโรคประจำถิ่น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ห่วงตั้งแต่ 12 มี.ค.-ต้น เม.ย. จะเรียกว่า Combatting ต้องออกแรงกดตัวเลขไม่ให้ยอดการติดเชื้อสูงกว่านี้ เป็นระยะต่อสู้ เพื่อลดการระบาด ลดความรุนแรงลง ซึ่งจะมีมาตรการต่างๆ ออกไป การดำเนินการให้กักตัวลดลง ระยะที่ 2 ตั้งแต่เดือน เม.ย.-พ.ค. เรียกว่า Plateau คือ การคงระดับผู้ติดเชื้อไม่ให้สูงขึ้น ให้เป็นระนาบจนลดลงเรื่อยๆ ระยะที่ 3 ช่วงปลาย พ.ค.-30 มิ.ย. เรียกว่า Declining จะเป็นการลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงให้เหลือ 1,000-2,000 คน และสุดท้ายระยะ 4 เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค. 65 เป็นต้นไป เรียกว่า Post pandemic คือ ออกจากโรคระบาด เข้าสู่โรคประจำถิ่น ซึ่งการรักษาผู้ป่วยก็จะเป็นระบบธรรมดาตามอาการ แบบผู้ป่วยนอก(
.
ทีมข่าว MC.news.com รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา