ที่ตลาดสุรนครเมืองใหม่ ตลาดกลางค้าส่งพืชผักและผลไม้ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ พ.ต.ท สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สันติบาล เดินทางมา ที่สำนักงานตลาดฯ เพื่อเข้ามาเจรจาขอคืนพื้นที่เข้าบริหารจัดการและดูแลผลประโยชน์ของตลาด ฯ โดยมี พ.ต.ท สายัญ แบ่งสันเทียะ รอง ผกก.สส. ในฐานะรักษาการแทน ผกก.สภ.เมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เจ้าหน้าปกครองจังหวัดนครราชสีมา กว่า 100 นาย เข้ารักษาความสงบเรียบร้อย

พ.ต.ท สันธนะ ฯ พร้อมพวกได้อ้างกับตำรวจว่าตนได้รับมอบอำนาจจากนายปรีชา สุวรรณชาติ ผู้บริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) อุ้มบุญธุรกิจและเป็นตัวแทนครอบครัวสุวรรณชาติ เจ้าของให้มาขอคืนพื้นที่ อันเป็นที่ดิน 38 ไร่ 1 งาน 38 ตารางวา ที่มีแผงขายสินค้า 1,310 แผง และลานขนถ่ายสินค้า 226 แผง ตลาดโต้รุ่ง 58 แผง ตลาดปีนัง 58 แผงและอาคารพาณิชย์ 59 คูหา โดยให้นางอุรัส ชัยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุรนครเมืองใหม่ ฯ ผู้เช่าดำเนินกิจการตลาดสุรนคร

พ.ต.ท สันธนะ ฯ ย้ำว่า ผู้เช่าไม่ได้จ่ายค่าเช่าโดยอ้างช่องว่างของข้อกฎหมาย ยื้อเวลากระบวนการยุติธรรม เรียกเก็บผลประโยชน์เดือนละกว่า 10 ล้านบาท ขณะเดียวกันกระบวนการยุติธรรม ก็ไม่สามารถให้นายปรีชา ฯ เข้าไปครอบครองตลาด ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาทั้งๆที่ศาลมีคำสั่งให้ผู้เช่าชำระเงินให้นายปรีชาฯเป็นเงิน 500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับตั้งแต่มีคำพิพากษาเป็นเวลา 24 ปี จึงขอฝากไปยังเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ได้ทราบ และพวกตนก็ไม่ได้มาก่อกวนสร้างความวุ่นวาย แต่มาทวงสิทธิเท่านั้น

ต่อมาฝ่ายกฎหมายของ บริษัท สุรนคร ฯ ได้มาพบ พ.ต.ท สันธนะ ฯ ได้นำเอกสารมาชี้แจงบรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด ต่างฝ่ายอ้างสิทธิการบริหารจัดการตลาด พ.ต.ท สายัญ ฯ ได้แจ้งถึงคดีตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครราชสีมา ระหว่าง หจก.อุ้มบุญธุรกิจ โดยเจ้าพนักงานบังคับคดี ผู้ชำระคดีเป็นโจทก์ กับบริษัท สุรนครเมืองใหม่ จำกัด จำเลย ซึ่งมีคำ พิพากษาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 ให้จำเลยชำระเงินและค่าเสียหายให้โจทก์จำนวน 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้น นับถัดจากวันฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จ และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเดือนละ 9 แสนบาท จนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สิน และบริวารออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 68654, 68655, 68656, 3911 ต.ในเมือง และ เลขที่ 17512 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา รวมยอดเงินที่ต้องชำระให้กับโจทก์ประมาณ 500 ล้านบาท

ต่อมาบริษัทสุรนครเมืองใหม่ จำเลยได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง ศาลได้พิจารณาเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562 มีคำสั่งห้ามมิให้เจ้าหนี้บังคับคดีเอาทรัพย์สินกับลูกหนี้ และพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ อันเกิดจากการผิดสัญญา และให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่เช่า อันเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ แต่คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด จึงต้องงดการบังคับคดีไว้ก่อน และไม่อาจออกหมายให้มีการบังคับคดีได้ หลังรับฟังจากเจ้าหย้าที่ตำรวจทำให้ พ.ต.ท สันธนะ ฯ ทำสีหน้าไม่ค่อยดี แสดงท่าทีไม่พอใจ ก่อนพาสมัครพรรคพวกออกจากตลาดไปในที่สุด