คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาได้รายสถานการณ์โควิด-19 จ.นครราชสีมา วันที่ 20 ม.ค. 65 พบว่ามีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ชุมชนรายใหม่ 182 ราย แยกเป็นติดเชื้อนอกจังหวัด 11 ราย และติดเชื้อในจังหวัด 171 ราย ทำให้ จ.นครราช สีมา มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 36,600 ราย วันนี้ทีมแพทย์รักษาหาย 176 ราย ยังรักษาอยู่ 1,937 ราย รักษาหายสะสม 34,371 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 292 ราย แบ่งตามรายอำเภอพบว่า อ.เมืองยังคงเป็นแชมป์ตครองตำแหน่งผู้ติดเชื้อสูงสุดถึง 77 ราย ถัดไปเป็น อ.ครบุรีมีผู้ติดเชื้อ 31 ราย , อ.ปากช่อง 14 ราย , อ.ด่านขุนทด 12 ราย , อ.ปักธงชัย 9 ราย , อ.สูงเนิน 7 ราย , อ.ห้วยแถลง 6 ราย , อ.บ้านเหลื่อม 5 ราย , อ.โนนไทย 4 ราย , อ.พิมาย 4 ราย , อ.คง 3 ราย , อ.แก้งสนามนาง 3 ราย , อ.หนองบุญมาก 2 ราย , อ.เฉลิมพระเกียรติ 1 ราย , อ.พระทองคำ 1 ราย , อ.ชุมพวง 1 ราย , อ.วังน้ำเขียว 1 ราย และ อ.ประทาย 1 ราย
ก่อนหน้านี้ได้มีการรายงานถึงสถานการณ์การแพร่ระบาด พบว่า มี 7 คลัสเตอร์เก่าและใหม่ ที่พบการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทำให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยคลัสเตอร์ ที่ 1 เกิดเหตุที่ โรงงานสยามแฟล็กซ์แพ็ค จำกัด ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมาตรวจพบว่าพนักงานตรวจ ATK ผลเป็นบวก 4 ราย แผนกเย็บถุงจัมโบ้ตัดแพ็ค ที่เป็นแรงงานไทย 2 คน อยู่ อ.โนนสูง และแรงงานชาวเมียนม่า 2 ราย ยืนยันติดโควิด 19 และยัง พบว่า ภรรยาของแรงงานเมียนม่าที่ติดเชื้อ อีก 1 ราย ต่อมาพบผู้ติดเชื้อเป็นแรงงานไทย พักอยู่ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ 1 ราย, อ.โนนสูง 1 ราย และ อ.เมือง 2 ราย นอกจากนั้นยังมีแรงงานชาวเมียนมาอีก 7 ราย ติดเชื้อ รวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อแล้ว 16 ราย จากพนักงานทั้งหมด 463 คน
อย่างไรก็ตามทีมสอบสวนโรคพบปัญหาที่ขัดแย้งกับผู้ประกอบกิจการโรงงาน ตามมาตรการของการควบคุมโรคติดต่อเช่นรายงานผลตรวจ ATK พนักงานทั้งหมดที่ไม่เป็นปัจจุบัน, มาตรการต่างๆล่าช้า,มีการปล่อยให้แรงงานที่เป็นกลุ่มเสี่ยงออกไปชุมชนโดยไม่กักตัว, ไม่ทำบับเบิ้ล แอนด์ ซีล ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคของสาธารณสุข ซึ่งทางจังหวัด โดยนายชูศักดิ์ ชุนเกาะ รองผวจ.โคราช ได้สั่งการให้สาธารณสุขอำเภอเมืองจัดทีมลงไปตรวจสอบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมเตรียมดำเนินคดีข้อหาไม่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค ย้ำมาตรการทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่ราชการกำหนด หากไม่ดำเนินการให้สั่งปิดโรงงานได้ทันที
คลัสเตอร์ที่ 2 เกิดที่ โรงเรียนครบุรีวิทยา ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี ผู้ป่วยรายแรกเป็นนักเรียนชั้นประถม กับมารดา มีอาการป่วยเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ได้ตรวจ ATK พบผลเป็นบวก รีบแจ้งโรงเรียนและสาธารณสุขให้ ทราบ โรงเรียนได้สั่งปิดทันที วันที่ ให้นักเรียนที่ร่วมชั้น จำนวน 37 คน กักตัวที่บ้านและตรวจ ATK หาเชื้อ ทีมสอบสวนโรค อ.ครบุรี ค้นหาเชิงรุก พบนักเรียนร่วมชั้น ติดเชื้ออีก 9 ราย มีผู้ปกครองติดเชื้ออีก 1 ราย ได้กระจายเชื้อแพร่ไปกลุ่มที่ 2 มีพ่อของนักเรียนติดเชื้ออีก 1 ราย และมีผู้เสี่ยงสูง 66 คนเป็นนักเรียน 27 คน รวมทั้งนักเรียนที่นั่งรถตู้อีก 12 คน และยังมีผู้เสี่ยงสูงร่วมบ้านในชุมชนอีก 27 คน ขณะนี้ได้กักตัวอยู่ในชุมชนแล้ว
คลัสเตอร์ที่ 3 เป็น งานศพ หมู่ 8 และหมู่ 13 ต.ห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง ที่ญาติเดินทางมาจากหลายจังหวัด เช่น สุรินทร์ –กรุงเทพฯ- ระยอง- ชลบุรี- ฉะเชิงเทรา และ จ.จันทบุรี มาร่วมงานศพ ระหว่างวันที่ 7-8 ม.ค. 2565 จบงานศพพบว่าญาติจาก จ.สุรินทร์ ตรวจพบว่าติดโควิด 19 จึงแจ้งให้ญาติๆที่ อ.ห้วยแถลงทราบ และพากันไปตรวจ ATK เจอผลบวก 2 ราย ต่อมาทีมสอบสวนตรวจเชิงรุกในทุกพื้นที่เสี่ยง พบผลบวกและยืนยันติดเชื้อแล้ว 34 ราย และมีผลบวก ATK อีก 19 ราย ซึ่งรอตรวจยืนยันผล RT-PCR โดย ศบก.อ.ห้วยแถลง ได้สั่งปิดทั้ง 2 หมู่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 14-23 ม.ค. 2565 พร้อมตั้งด่านตรวจตลอด 24 ชั่วโมง
คลัสเตอร์ที่ 4 เป็นสถานบนเทิง ร้านตะวันแดง อ.เมืองนครราชสีมา เป็นคลัสเตอร์เก่าที่พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม ระบาดจนเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมีกลุ่มผู้ติดเชื้อสู่บ้านพักผู้สูงอายุราชสีมา รวมทั้งกลุ่มพนักงานร้านตะวันแดง และกลุ่มลูกค้าที่ไปเที่ยว จนเกิดเป็นคลัสเตอร์ ต.บ้านใหม่ ที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ตะวันแดง ที่ไปเที่ยวระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 2564 -8 ม.ค/ 2565 ที่ตรวจ ATK พบเชื้อ ยืนยันผลว่าติดเชื้ออีก 5 ราย ในจำนวนนี้ ทำให้เกิดการแพร่ระบาไปกลุ่มที่ 2 เกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่อีก ที่ ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา โดยพบผู้ติดเชื้ออีก 17 ราย สรุปรวมมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 สถานบันเทิงร้านตะวันแดง แล้ว 119 ราย โดยเป็นกลุ่มที่ไปเที่ยวติดเชื้อ 71 ราย และผู้เสี่ยงสูงติดเชื้ออีก 48 ราย
คลัสเตอร์ที่ 5 เป็น เครือญาติบ้านหนองกระชาย หมู่ 11 ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา ที่เชื่อมโยงกับ สถานบันเทิงร้านตะวันแดง โดยผู้ป่วยรายที่ 1และ 2 เป็นสามีภรรยากันไปร่วมงานวันเกิดที่นั่น ต่อมาเริ่มมีอาการป่วย ไปตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 ปรากฎว่ามีเชื้อได้แพร่ไปกลุ่มที่ 2 โดยครอบครัวของผู้ป่วย 2 ราย ซึ่งอยู่บ้านคนละหลังและมักไปมาหาสู่กัน ที่สำคัญ มีการจัดงานแต่งงาน ในวันที่ 15 ม.ค. 2565 มีแขกมาร่วมงาน 200 คน และพบว่าครอบครัวที่จัดงานแต่ง ตรวจพบว่า ติดเชื้ออีก 5 ราย ทีมสอบสวนโรคจึงเร่งตรวจเชิงรุก พบว่าติดเชื้อระบาดเป็นกลุ่มที่ 3 ซึ่งเป็นเครือญาติที่มาร่วมงาน พบติดเชื้ออีก 12 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อ 19 ราย
คลัสเตอร์ที่ 6 เป็นการจัดงานวันเกิด หมู่ 4 ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา ผู้ป่วยรายแรก เด็กชายอายุ 11 ปี ที่ครอบครัวจัดงานวันเกิดให้ในวันที่ 11 มกราคม 2565 โดยชวนเด็กๆ ที่เป็นเครือญาติมาร่วมฉลอง ต่อมามี ผู้ป่วยพบจากการตรวจ ATK ผลเป็นบวก และยืนยันผลพบติดเชื้อโควิด 19 ศปก. เมืองได้มีการตรวจเชิงรุกคนในครอบครัว รวมทั้งเด็กๆ กับญาติที่มาร่วมงาน พบติดเชื้ออีก 10 คน โดยเป็นเด็ก และผู้ปกครองอีก 10 ราย ซึ่งเชื้อได้แพร่ไปกลุ่มที่ 2 ทำให้ญาติที่อาศัยร่วมบ้าน และผู้มีปฏิสัมพันธ์ติดเชื้อไปด้วย 7 ราย และเชื้อไปกลุ่มที่ 3 มีญาติที่ อ.ปักธงชัยอีก 1 ราย ติดเชื้อด้วย และมีอีก 4 รายที่ผล ATK เป็นบวกรอยืนยันผล RT-PCR รวมคลัสเตอร์นี้ยืนยันติดเชื้อแล้ว 18 ราย
คลัสเตอร์ที่ 7เกิดขึ้นที่บ้านหนองบัวตะเกียด ม.1 ต.หนอบัวตะเกียด อ.ด่านขุนทด เริ่มจากผู้ติดเชื้อรายแรกเดินทางมาจาก จ.ชลบุรี ในช่วงปีใหม่ แพร่เชื้อสู่คนในครอบครัว และ เชื้อแพร่ไปยังเครือญาติรวมทั้งเพื่อนบ้าน เนื่องจากมีการสังสรรค์ พบปะพูดคุย ทำกิจกรรมร่วมกัน จึงทำให้มีผู้เสี่ยงสูงจำนวนมาก ซึ่งเดิมเชื้อกระจายไปถึง 6 กลุ่ม มีผู้ติดเชื้อรวม 40 ราย ถึงวันนี้มีผู้ ติดเชื้อ 43 ราย โดย ศบก.ด่านขุนทดได้สั่งปิดหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งแต่วันที่ 12-21 ม.ค. 2565
มีรายงานว่า นายณรงชนนฐ์ ดีปู่ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองนครราชสีมา ได้มีหนังสือรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา แจ้งขอปิดทำการที่ว่าการอำเภอเมืองนครราชสีมา (ตึกใหม่) ชั้น 2 เนื่องจากมีปลัดอำเภองานศูนย์ดำรงธรรม ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 และมีผู้มีความเสี่ยงสูงซึ่งปฏิบัติงาน ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองนครราชสีมา (ตึกใหม่) ชั้น 2 ดังนี้ -งานศูนย์ดำรงธรรม -งานความมั่นคง-งานทะเบียนอาวุธปืน –งานสำนักงานอำเภอ เป็นเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 18-24 มกราคม 2565 เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ในส่วนสำนักทะเบียนอำเภอ (งานบัตรประจำตัวประชาชน งานทะเบียนราษฎร งานทะเบียนทั่วไป) และส่วนอื่นๆ ยังเปิดให้บริการประชาชนตามปกติ.
ติดตามดูพื้นที่เสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ ในอำเภอและตำบลที่ติดเชื้อ…ระวัง!!
ข้อมูล : ปชส.นม ทีมข่าว MC.news.com รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา