พื้นที่โฆษณา

กระทรวงการคลังเผยความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ 3 ปรากฏว่ามีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 25.44 ล้านราย ยอดใช้จ่ายสะสมรวม 110,123.4 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 55,975.3 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 54,148.1 ล้านบาท และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีประชาชนผู้ใช้สิทธิจำนวน 84,680 คน จากจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ 480,170 ราย โดยประชาชนใช้จ่ายเงินรวม 2,764 ล้านบาท …วัคซีน Moderna โดยเผยผลการทดลองวัคซีนในเด็กอายุ 6-11 ปี จำนวนกว่า 4,700 คน ฉีดปริมาณ 50 ไมโครกรัม จำนวน 2 เข็ม มีความปลอดภัยแม้จะมีอาการข้างเคียง  …!!ส่วนยอดการติดเชื้อลดลงอยู่ที่ 8,452 ราย เสียชีวิต   57 ราย หายป่วย 8,449 ราย!!

พื้นที่โฆษณา

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19 วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2564ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 8,452 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 7,654 ราย  ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 631 ราย  ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 160 ราย  ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 7 ราย  ผู้ป่วยสะสม 1,846,452 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) แพทย์รักษาหายป่วยกลับบ้าน 8,449 ราย รวมยอดหายป่วยสะสม 1,730,871 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)ผู้ป่วยกำลังรักษา 98,096 ราย มีผู้เสียชีวิต 57 ราย

พื้นที่โฆษณา

ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวานวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 244,836,921 ราย มีอาการรุนแรง 74,553 ราย แพทย์รักษาหายแล้ว 221,955,980 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,970,283 ราย จัดอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่   1. สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อ  จำนวน 46,417,525 ราย   2. อินเดียมีผู้ติดเชื้อ  จำนวน 34,201,357 ราย   3. บราซิล มีผู้ติดเชื้อ  จำนวน 21,735,560 ราย   4. สหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อ  จำนวน 8,809,774 ราย  5. รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อ  จำนวน 8,279,573 ราย   สำหรับประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อ  อยู่ในอันดับที่ 24 จำนวน 1,866,863 ราย

พื้นที่โฆษณา

กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานสถานการณ์โควิดในประเทศฟิลิปปินส์ได้ทดลองฉีดวัคซีนสูตรไขว้ Sinovac และวัคซีนอื่น ในอาสาสมัคร 1,500 ราย เพื่อเพิ่่มประสิทธิภาพโดย รมช.กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เผยว่า จะได้เริ่มทดลองฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สูตรไขว้ภายในช่วงต้นเดือน พ.ย. ให้เป็นไปตามแผนระดมฉีดวัคซีนของประเทศ เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดเศรษฐกิจได้โดยเร็ว  ทั้งนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดรับอาสาสมัครผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน 1,500 คน ให้เข้าร่วมการทดลอง โดยจะมีการฉีดวัคซีนซิโนแวคของจีน ร่วมกับวัคซีนของบริษัทอื่น ๆ เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ที่มีรายงานว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อใช้การฉีดสูตรไขว้ โดยฟิลิปปินส์มียอดผู้ติดเชื้อสะสมถึงเกือบ 2.8 ล้านราย และยอดผู้เสียชีวิตเกือบ 42,000 ราย นับเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อ-ผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียน

พื้นที่โฆษณา

สำหรับประเทศไทยรายงานจากศูนย์ข้อมูลCOVID19 ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ MOPH-IC มีจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 25 ต.ค. 2564) รวมทั้งสิ้น  71,237,520 โดส ใน 77 จังหวัด  สำหรับภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 25 ตุลาคม 2564 มียอดฉีดทั่วประเทศ 731,718 โดส  ได้แก่การฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 346,589 ราย   ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน  341,373 ราย   ฉีดเข็มที่ 3 จำนวน: 43,756 ราย โดยมีจำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 40,346,281 ราย  จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 28,713,904 ราย  จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 2,177,335 ราย

สำนักข่าวกรองแห่งชาติได้รายงานถึงวัคซีน Moderna โดยเผยผลการทดลองฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 6-11 ปี จำนวนกว่า 4,700 คน ฉีดปริมาณ 50 ไมโครกรัม จำนวน 2 เข็ม  ปรากฏว่ามีความปลอดภัยแม้จะมีอาการข้างเคียง  การทดลองนี้มีรายงานเมื่อ 25 ต.ค.64 ว่า Moderna บริษัทผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เปิดเผยผลการทดลอง เด็กกว่า 4,700 คน ว่าสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในเด็กอายุ 6-11 ปี โดยให้ในปริมาณ 50 ไมโครกรัม จำนวน 2 เข็ม หรือเป็นปริมาณครึ่งหนึ่งที่ฉีดให้ผู้ใหญ่ ปริมาณที่ใช้ดังกล่าวมีความปลอดภัย แม้จะมีอาการข้างเคียงบ้าง เช่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ มีไข้ และปวดบริเวณที่ฉีด

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2564 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 25.44 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 110,123.4 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 55,975.3 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 54,148.1 ล้านบาท และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีประชาชนผู้ใช้สิทธิจำนวน 84,680 คน จากจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ 480,170 ราย โดยมียอดใช้จ่ายสะสมส่วนประชาชนรวม 2,764 ล้านบาท โดยมีมูลค่าการใช้จ่ายสะสมที่นำมาคำนวณสิทธิ e-Voucher 2,200 ล้านบาท และคิดเป็นมูลค่าสะสม e-Voucher ทั้งสิ้นกว่า 241 ล้านบาท และมูลค่าการใช้จ่ายส่วน e-Voucher 144 ล้านบาท

สำหรับข้อมูลการใช้จ่ายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มล่าสุด (25 ตุลาคม 2564 เวลา 8.00 น.) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีการใช้จ่ายสะสมประมาณ 752.2 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนใช้จ่าย 388.1 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 364.1 ล้านบาทสำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้มีการใช้จ่ายสะสมกว่า 600,000 บาท และในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มล่าสุดขณะนี้ มีจำนวนกว่า 65,000 ราย

ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เต็มจำนวน 28 ล้านสิทธิแล้ว โดยอยู่ระหว่างการประมวลผลจำนวนผู้ลงทะเบียนไม่สำเร็จเพื่อประกอบการพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำสิทธิดังกล่าวกลับมาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” จนกว่าจะครบ 1 ล้านสิทธิ ซึ่งยังมีสิทธิเหลือกว่า 5 แสนสิทธิ

พื้นที่โฆษณา

#ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูล COVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ 

สำนักข่าว MC.news.com รายงาน