นายกรัฐมนตรีหอบเงิน 20.1 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี และ ปชช.ร่วมบริจาค นำไปช่วยโครงการพัฒนาวัคซีนเพื่อชาติ…แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ในพื้นที่ 29 จังหวัด เตรียมรับเงินเยียวยาก้อนแรกวันที่ 8 -12 พย.64…กระทรวงสาธารณสุขชี้ปัจจัยเสี่ยง การติดเชื้อโควิดในงานศพ ที่พบการระบาดในพื้นที่ในหลายภูมิภาค โดยพฤติกรรมของผู้ร่วมงานส่วนมากเกิดจากความคุ้นเคย- กินอาหารร่วมกัน- ดื่มสุราและใช้แก้วน้ำร่วมกัน- ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยไม่ถูกวิธี- เล่นการพนันภายในงานศพ – ผู้ที่มาร่วมงานพักค้างแรมที่บ้านเจ้าภาพ- ไม่มีการคัดกรองผู้ร่วมงาน…!!ส่วนยอดการติดเชื้อลดลงอยู่ที่ 7,706 ราย เสียชีวิต 66ราย หายป่วย 9,532 ราย!!
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19 วันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2564 ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 7,706 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 7,234 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 334 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 128 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 10 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,838,000 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) แพทย์รักษาหายป่วยกลับบ้าน 9,532 ราย รวมหายป่วยสะสม 1,722,422 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 98,150 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิต 66 ราย
ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวานวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 244,426,712 ราย มีอาการรุนแรง 75,296 ราย แพทย์รักษาหายแล้ว 221,446,207 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,963,743 ราย จัดอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 46,312,782 ราย 2. อินเดีย มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 34,189,484 ราย 3. บราซิล มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 21,729,763 ราย 4. สหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 8,773,674 ราย 5. รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 8,241,643 ราย สำหรับประเทศไทย มีผู้ติดเชื้ออยู่ในอันดับที่ 24 จำนวน 1,859,157 ราย
สำหรับประเทศไทยรายงานจากศูนย์ข้อมูลCOVID19 ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ MOPH-IC มี จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 24 ต.ค. 2564)รวม 70,505,802 โดส ใน 77 จังหวัด ภาพรวมยอดฉีดวัคซีนเมื่อ วันที่ 24 ตุลาคม 2564 มียอดฉีดทั่วประเทศ 226,178 โดส เป็นการฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 118,658 ราย ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 96,366 ราย3 ฉีดเข็มที่ 3 จำนวน11,154 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 39,999,692 รายจำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 28,372,531 รายจำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 2,133,579 ราย
มีรายงานการฉีดวัคซีนที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ พบว่ามาการฉีดวัคซีน เข็ม 1ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยง มากกว่า 50% โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 28 ก.พ. – 21 ต.ค. 64 ดำเนินการฉีดให้กับ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เป็นการฉีดเข็มที่ 1 ฉีดแล้ว 270,579 คิดเป็น 65.50 % ฉีดเข็มที่ 2 ฉีดแล้ว 198,348 คิดเป็น 48.01 % ฉีดเข็มที่ 3 ฉีดแล้ว 507 คิดเป็น 0.12 % ส่วนกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว ฉีดเข็ม 1 ฉีดแล้ว 156,362 คิดเป็น 55.58 % ฉีดเข็ม 2 ฉีดแล้ว 109,198 คิดเป็น 38.82 % และฉีดเข็ม 3 ฉีดแล้ว 1,484 คิดเป็น 0.53 %
มีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขแจ้งถึงปัจจัยเสี่ยง โควิดที่ระบาดในงานศพ ที่พบว่ามีการระบาดในพื้นที่ในหลายภูมิภาคโดยพฤติกรรมของผู้ติดเชื้อส่วนมากเกิดจากความคุ้นเคยในการร่วมงานเช่น- กินอาหารร่วมกัน- ดื่มสุราและใช้แก้วน้ำร่วมกัน- ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย/ใส่ผิดวิธี- เล่นการพนันภายในงาน – ผู้ที่มาร่วมงานพักค้างแรมที่บ้านเจ้าภาพ- ไม่มีการคัดกรองผู้ร่วมงาน โดยในจังหวัดต่างๆได้จัดทำเป็นหนังสือแจ้งไปยังอำเภอ-ตำบลและหมู่บ้านต่างๆช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค Universal Prevention อย่างเคร่งครัด
สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบเงินบริจาคจากประชาชนและคณะรัฐมนตรี เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาโควิด 20.1 ล้านบาท แยกเป็นสองส่วนโดยให้ใช้จ่ายในการสมทบทุนโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีน ของ อว. เป็นจำนวนเงิน 15,050,000 บาท และใช้สนับสนุนโครงการพัฒนาวัคซีน ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสถาบันวัคซีนแห่งชาติ จำนวน 5,050,000 บาท
สำหรับมาตรการการ รับเงินเยียวยา แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ในพื้นที่ 29 จังหวัด ที่ประกาศเป็นโซนสีแดงช่วงการระบาดของโควิด-19รุนแรง ที่ได้ดำเนินการลงทะเบียนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. – 5 พ.ย. 64 – ลงทะเบียนจองรับคิวบริการผ่าน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th 25 ต.ค. – 5 พ.ย. 64 เมื่อจองสิทธิ์ในระบบแล้ว ให้เดินทางมายืนยันตัวตน ณ อาคาร 6 ชั้น 7 กรมการขนส่งทางบกกลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-4 และกลุ่มวิชาการขนส่ง หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
หลักฐานการยืนยันตัวตนที่ต้องเตรียมเอกสารไปพร้อมประกอบไปด้วย 1. คำขอเพื่อรับสิทธิช่วยเหลือ (ณ จุดลงทะเบียน) 2. บัตรประจำตัวประชาชน 3. ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ 4. บัตรประจำตัวผู้ขับรถสาธารณะ สำหรับกรณีรถเช่า ต้องมีข้อมูลทะเบียนรถที่เช่าขับและผู้ให้เช่ารถด้วย โดยในวันที่ 8 -12 พ.ย. 64 – รับเงินเยียวยา รอบที่ 1 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ สำหรับ รถจักรยานยนต์สาธารณะและรถแท็กซี่ส่วนบุคคล และวันที่ 22 -26 พ.ย. 64 – รับเงินเยียวยา รอบที่ 2 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ สำหรับรถแท็กซี่ที่เช่าขับ
#ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูล COVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ
สำนักข่าว MC.news.com รายงาน