ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา แจงถึงภูมิคุ้มกันหมู่ หมายถึง เมื่อประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานต่อโรคติดเชื้อ จะช่วยลดการระบาด และ ปกป้องผู้ที่ยังไม่มีภูมิต้านทาน ไม่ให้เกิดการติดเชื้อได้ ยกเคท”สิงคโปร์-อิสราเอล”ฉีดวัคซีนกว่า 80% โรคก็ยังระบาดอยู่ เพราะภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น ไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์ แม้ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังมีโอกาสติดเชื้อ และแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้ แต่ความรุนแรงของโรคลดน้อยลง!! ขณะที่การติดเชื้อวันนี้มีจำนวนลดลงอยู่ที่ 9,930 ราย เสียชีวิต 97ราย หายป่วย 12,336 ราย!!
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19 วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2564 มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รวม 9,930 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 8,954 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 607 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 362 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 7 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,618,499 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 12,336 ราย หายป่วยสะสม 1,493,077 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 109,748 ราย วันนี้มีผู้ป่วยเสียชีวิต 97 ราย
ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวาน วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 235,417,062 ราย มีอาการรุนแรง 87,544 ราย แพทย์รักษาหายแล้ว 212,226,816 ราย มีรายผู้เสียชีวิต 4,811,567 ราย จัดอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อจำนวน 44,490,897 ราย2. อินเดีย ติดเชื้อ จำนวน 33,812,559 ราย3. บราซิล ติดเชื้อ จำนวน 21,459,117 ราย4. สหราชอาณาจักร ติดเชื้อ จำนวน 7,871,014 ราย5. รัสเซีย ติดเชื้อจำนวน 7,560,767 ราย สำหรับประเทศไทยติดเชื้ออยู่ในอันดับที่ 27 จำนวน 1,637,432 ราย
ศูนย์ข้อมูลCOVID19 ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ MOPH-IC มีรายงานจำนวนการได้รับวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19เป็นยอดสะสม (28 ก.พ. – 2 ต.ค. 2564) รวมยอดการฉีด 54,869,411 โดส ใน 77 จังหวัด โดยภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 2 ตุลาคม 2564 มียอดฉีดทั่วประเทศ 288,016 โดส ฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 89,620 ราย ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 176,074 ราย ฉีดเข็มที่ 3 จำนวน 22,322 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 32,904,750 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 20,531,903 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 1,432,758 ราย ทั้งนี้ความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนตามเป้าหมายในกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 70%ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา พังงา ภูเก็ต และระนอง
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความเห็นเรื่องภูมิคุ้มกันหมู่ในโรคโควิด 19 ผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาว่า ภูมิคุ้มกันหมู่ หมายถึง เมื่อประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานต่อโรคติดเชื้อ จะช่วยลดการระบาด และ ปกป้องผู้ที่ยังไม่มีภูมิต้านทาน ไม่ให้เกิดการติดเชื้อได้ เช่น โรคหัด ถ้าประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทาน ไม่ว่าจะจากการฉีดวัคซีน หรือการติดเชื้อ เป็นหัดแล้ว ประชากรส่วนน้อยได้รับประโยชน์ถูกปกป้องไปด้วย ไม่ให้เกิดการระบาดของโรค แต่ภูมิคุ้มกันหมู่ไม่สามารถใช้ได้กับโรค บางโรคที่เป็นเฉพาะบุคคล เช่น บาดทะยัก ต่อให้เราฉีดวัคซีนบาดทะยักมากแค่ไหน คนที่ไม่ได้ฉีดถ้าไปโดนตะปูตำ คนอื่นที่ฉีดวัคซีนแล้วจำนวนมาก ก็ไม่สามารถจะมาปกป้องเราได้ ความหวังให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ สำหรับโรคโควิด 19 ในระยะเริ่มแรกที่มีวัคซีน โดยคาดการณ์กันว่าถ้าประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานจากการติดเชื้อ หรือได้รับวัคซีนมากกว่าร้อยละ 70 ก็จะหยุดการระบาดของโรคได้ แต่ความเป็นจริง ภูมิคุ้มกันหมู่ ไม่สามารถใช้ได้กับโรคโควิด 19
สิงคโปร์ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 80% โรคก็ยังระบาดอยู่ อิสราเอลก็เช่นเดียวกัน ทั้งนี้เพราะภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น ไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์ ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังมีโอกาสติดเชื้อ และแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้ แต่ความรุนแรงของโรคลดน้อยลง ไวรัสเองยังเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ ที่จะหลบหลีกต่อระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ ถ้ามีภูมิต้านทานจากการติดเชื้อ หรือฉีดวัคซีน เมื่อติดเชื้อ อาการจะลดน้อยลงหรือไม่มีอาการ การติดเชื้อครั้งแรกในคนที่ไม่มีภูมิต้านทาน จะรุนแรงที่สุด และจะสร้างภูมิต้านทานป้องกันการติดเชื้อในครั้งต่อไปให้มีอาการลดน้อย และจะลดน้อยลงเรื่อยๆจนเป็นเหมือนโรคทางเดินหายใจแบบปกติ
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญทุกคนจะต้องมีภูมิต้านทาน ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์ ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้น เกิดได้จากการติดเชื้อหรือการได้รับวัคซีน และเมื่อมีการติดเชื้อเมื่อมีภูมิต้านทาน อาการก็จะน้อยลงหรือไม่มีอาการในอนาคตการพัฒนายามาช่วยในการรักษาหรือลดอาการของโรคลงอีก ก็จะเป็นวิธีที่ช่วยเสริมลดความรุนแรงลง เราจะอยู่ด้วยกันกับไวรัสเช่นไวรัสทางเดินหายใจชนิดอื่น และต่อไปโรคนี้จะเป็นในเด็ก และมีอาการน้อย ไม่สามารถจะกวาดล้างให้หมดไปได้ ทุกคนควรได้รับวัคซีน ให้มีภูมิต้านทานเกิดขึ้น เพื่อลดความรุนแรงของโรคลง ด้วยการฉีดวัคซีนทุกคน
#ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูลCOVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ
สำนักข่าว MC.news.com รายงาน