กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข วางมาตรการเปิดโรงภาพยนตร์ ที่ประชาชนต้องปฏิบัติตามมาตรการ10ประการ และห้ามกินของขบเคียวในโรงหนัง โฆษกสำนักนายกฟุ้งโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) โลดลิ่ว มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2564 จำนวน 39,401 คน มียอดจองที่พัก SHA+ Phuket Sandbox สำหรับการเข้าพักระหว่างเดือนกรกฎาคม 2564 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ 723,990 คืน เชื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 2,330 ล้านบาท ขณะที่การติดเชื้อวันนี้มีจำนวนลดลงอยู่ที่ 10,828 ราย เสียชีวิต 77ราย หายป่วย 11,894 ราย!!
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19 วันวันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 2564 ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 10,828 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 9,940 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 770 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 104 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 14 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,608,569 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 11,894 ราย หายป่วยสะสม 1,480,741 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)ผู้ป่วยกำลังรักษา 112,251 ราย เสียชีวิต 77 ราย
ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวานนี้ัวันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 235,063,766 ราย มีอาการรุนแรง 88,548 ราย แพทย์รักษาหายแล้ว 211,814,324 ราย เสียชีวิต 4,805,700 ราย จัดอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกาติดเชื้อ จำนวน 44,443,405 ราย 2. อินเดีย ติดเชื้จำนวน 33,789,398 ราย 3. บราซิล ติดเชื้อ จำนวน 21,445,651 ราย 4. สหราชอาณาจักร ติดเชื้อจำนวน 7,841,625 ราย 5. รัสเซียติดเชื้อ จำนวน 7,535,548 ราย สำหรับประเทศไทย จัดอยู่ในอันดับที่ 28 ติดเชื้อจำนวน 1,626,604 ราย
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ รายงานว่า บริษัทยา Merck ในสหรัฐฯประสบความสำเร็จในการทดสอบยารักษาผู้ติดเชื้อ COVID-19 โดยรายงานนี้ สนข. Aljazeera ยืนยันว่าเมื่อ 1 ต.ค.64 ว่า บริษัทผลิตยา Merck ในสหรัฐฯ แถลงผลการทดสอบยา Molnupiravir ว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ติดเชื้อ Covid-19 โดยสามารถลดอัตราการป่วยหนัก การนอนโรงพยาบาล และ การเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 50 ในกลุ่มเสี่ยงสูง และในขั้นต่อไป บริษัทจะยื่นขออนุมัติต่อองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เพื่อใช้ยาดังกล่าวเป็นกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ
สำหรับการฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติในประเทศไทย ในขณะนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 รายงานว่าจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 1 ต.ค. 2564) มียอดฉีดแล้วรวม 54,581,395 โดส ใน 77 จังหวัด โดยภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 1 ตุลาคม 2564 มียอดฉีดทั่วประเทศ 796,583 โดส ฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 237,298 ราย ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 517,255 ราย ฉีดเข็มที่ 3 : 42,030 ราย โดยที่จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 32,815,130 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 20,355,829 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 1,410,436 ราย
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดมาตรการเปิดโรงภาพยนตร์เพื่อผ่อนคลายในด้านสังคมและเศรษฐกิจ โดยที่โรงภาพยนตร์ที่เปิดให้บริการจะต้องดำเนินการ 10 มาตรการ ดังนี้ 1. คัดกรองพนักงาน ไทยเซฟไทย 2. สวมหน้ากากตลอดเวลา 3. มีที่ล้างมือเพียงพอ 4. จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ 5. สถานที่ต้องระบายอากาศ 6. ทำความสะอาดสถานที่สม่ำเสมอ 7. มีถังขยะฝาปิดบริการเพียงพอ 8. ประชาสัมพันธ์มาตรการควบคุมป้องกันโควิดสม่ำเสมอ 9. มีระบบติดตามการเข้า-ออกสถานที่ให้ผู้ใช้บริการ 10. ผ่านการประเมิน THAI STOP COVID 2 PLUS นอกจากนั้นผู้ใช้บริการต้อง งดรับทานอาหารเครื่องดื่มในโรงหนัง และล้างมือก่อนจับของส่วนตัว เมื่อกลับถึงบ้านอาบน้ำทันที
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2564 จำนวน 39,401 คน จากการคัดกรองพบผู้ติดเชื้อ คิดเป็นร้อยละ 0.3 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ในขณะที่จำนวนการจองที่พัก SHA+ Phuket Sandbox สำหรับการเข้าพักระหว่างเดือนกรกฎาคม 2564 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ 723,990 คืน ส่วนโครงการสมุยพลัส (Samui Plus) และโครงการส่วนขยายของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7 (Phuket Extension) มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม ทั้งสิ้น 939 คน และ 399 คน ทั้งนี้ มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ณ. วันที่ 27 กันยายน 2564 อยู่ที่ประมาณ 2,254 ล้านบาท โครงการสมุยพลัสอยู่ที่ 66.58 ล้านบาท และสำหรับโครงการส่วนขยายของภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์อยู่ที่ 12.16 ล้านบาท รวมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 2,330 ล้านบาท
นายธนกร กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายเปิดประเทศด้านการท่องเที่ยว โดยขยายผลและพลิกโฉมการท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก (World Class Destination) ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 และไตรมาสแรกของปี 2565 จำนวน 1 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละไม่น้อยกว่า 5,000 คน คาดว่าจะสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยกว่า 60,000 ล้านบาท ซึ่งมีการดำเนินการปลดล็อกเงื่อนไข เช่น การลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน การตรวจ RT-PCR ก่อนมาและเมื่อถึงสนามบิน หลังจากนั้นให้ตรวจแบบ ATK, หนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทยออนไลน์แบบหมู่คณะ (Group COE), การอนุญาตเที่ยวบินพาณิชย์ของรัสเซียให้สามารถเดินทางเข้าสู่ภูเก็ต เป็นต้น
ทั้งนี้ การพัฒนาเพื่อพลิกโฉมภูเก็ตสู่สถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก (World Class Destination) ในปี 2565 ภายใต้แนวคิด SUPRA ประกอบด้วย 1. Safety สร้างความมั่นในด้านความปลอดภัย 2. Upgrading โดยการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและการยกระดับระบบสาธารณสุข 3. Pro-Poor การเยียวยาและดูแลประชาชนฐานราก สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงชีวภาพเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (BCG Tourism) 4. Refine การพัฒนาปรับปรุงทักษะใหม่ๆ ให้กับแรงงาน ควบคู่ไปกับการเพิ่มมูลค่าสินค้า และ 5. Activities จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและกิจกรรมระดับโลกด้วย
#ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูลCOVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ
สำนักข่าว MC.news.com รายงาน