พื้นที่โฆษณา

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2564 รวมทั้งสิ้น 14,555 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 12,600 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 1,156 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 790 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 9 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,419,929 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) วันนี้ทีมแพทย์รักษาหายป่วยกลับบ้าน 13,691 ราย  ยอดหายป่วยสะสม 1,276,821 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) และผู้ป่วยกำลังรักษา 129,421 ราย ในขณะที่มีผู้เสียชีวิต 171 ราย

พื้นที่โฆษณา

ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวานนี้ วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 227,253,177 ราย  มีอาการรุนแรง 101,818 ราย  แพทย์รักษาหายแล้ว 203,938,613 ราย  เสียชีวิต 4,673,494 ราย  จัดอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 42,479,780 ราย  2. อินเดีย จำนวน 33,345,873 ราย  3. บราซิล  จำนวน 21,034,610 ราย  4. สหราชอาณาจักร  จำนวน 7,312,683 ราย 5. รัสเซีย จำนวน 7,194,926 ราย สำหรับประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 29 จำนวน 1,434,237 ราย

พื้นที่โฆษณา

สำหรับการฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติในประเทศไทย ขณะนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 รายงานว่า จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 15 ก.ย. 2564) ทั้งหมดรวม 42,477,514 โดส ใน 77 จังหวัด  ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 15 กันยายน 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ 830,413 โดส ฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 316,107 ราย  ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 512,728 ราย  ฉีดเข็มที่ 3 จำนวน 1,578 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม จำนวน 28,085,202 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด) จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม จำนวน 13,773,184 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์) จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม จำนวน 619,128 ราย

พื้นที่โฆษณา

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่ารัฐตั้งเป้าหมายให้บริการวัคซีนโควิด เดือน ต.ค.64ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่ม โดยเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด  ต.ค. 64 ต้องครอบคลุมประชากรทั้งหมด อย่างน้อยร้อยละ 50 ทุกจังหวัด หรืออย่างน้อย 1 อำเภอ ครอบคลุมร้อยละ 70 และมี ต้นแบบ COVID Free Area (ครอบคลุมร้อยละ 80) อย่างน้อย 1 พื้นที่  และจะต้องครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ ให้มากที่สุด รวมทั้งประชากรกลุ่มอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจัดสร โดยฉีดวัคซีนให้ครบทั้ง 2 เข็ม ขยายฉีดกลุ่มอายุ ตั้งแต่ 12 ปี ขึ้นไป  พร้อมทั้งกระตุ้นเข็ม 3 ให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม แล้ว เป้าหมายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและควบคุมการระบาด

พื้นที่โฆษณา

สำหรับการฉีดวัคซีน Pfizer ให้กับนักเรียน ในสถานศึกษา (School-based vaccination program) ได้กำหนดให้บริการวัคซีน Pfizer ผ่านสถานบันการศึกษาระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่าในรูปแบบวัคซีนสำหรับนักเรียนในสถาศึกษา (School-based vaccination program) เช่นโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาลและเอกชน,สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.),โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,โรงเรียนปริยัติธรรม กองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพุทะศาสนาแห่งชาติ,สถาบันศึกษาปอเนาะ และสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ที่มีนักเรียนวัยเดียวกันกำลังศึกษาอยู่ เช่น โรงเรียนเตรียมทหาร กระทรวงกลาโหม โรงเรียนคนพิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โรงเรียนในสังกัด อปท เป็นต้นเป้าหมายเด็กนักเรียน จำนวน 4.5 ล้านคน

พื้นที่โฆษณา

วันที่ 16 ก.ย. 2564 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Yong Poovorawan’ เกี่ยวกับ การให้วัคซีนในผู้ที่ติดเชื้อโควิค 19 ว่า การให้วัคซีนในผู้ที่ติดเชื้อโควิค 19 แล้ว จากข้อมูลการศึกษาวิจัยที่ศูนย์ ในการให้วัคซีนหลังการติดเชื้อ และตรวจภูมิต้านทาน นำไปใช้ประโยชน์ได้เป็นแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณากำหนดเป็นแนวทางผู้ที่ติดเชื้อโควิค 19  ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน หรือได้รับไม่ครบ 2 เข็ม ควรได้รับวัคซีนอีก 1 ครั้ง หลังจากติดเชื้อ 1 เดือนขึ้นไป วัคซีนที่ใช้ควรเป็นวัคซีนกระตุ้น คือไวรัสเวกเตอร์  หรือ mRNA ผู้ที่ติดเชื้อและเคยได้รับวัคซีนครบ 2 ครั้งมาก่อนโดยครั้งที่ 2 ก่อน 14 วัน  ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับวัคซีนในขณะนี้ รอจนกระทั่งมีวัคซีน สายพันธุ์ใหม่แล้วค่อยกระตุ้น น่าจะเป็นปีหน้า

พื้นที่โฆษณา

ราย#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูลCOVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ 

สำนักข่าว MC.news.com รายงาน