ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19วันพุธที่ 8 กันยายน 2564 ติดเชื้อรวม 14,176 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อใหม่ 13,670 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 506 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,293,656 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 16,769 ราย หายป่วยสะสม 1,138,938 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 142,644 ราย เสียชีวิต 228 ราย
ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวานนี้ วันอังคารที่ 7 กันยายน 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 221,976,467 ราย มีอาการรุนแรง 105,100 ราย แพทย์รักษาหายแล้ว 198,575,186 รายเสียชีวิต 4,588,830 ราย จัดอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา 🇺🇸 จำนวน 40,865,794 ราย 2. อินเดีย จำนวน 33,057,320 ราย 3. บราซิล จำนวน 20,899,933 ราย 4. รัสเซีย จำนวน 7,030,455 ราย 5. สหราชอาณาจักร จำนวน 7,018,927 ราย โดยที่ประเทศไทย 🇹🇭 อยู่ในอันดับที่ 29 จำนวน 1,308,343 ราย
รายงานการฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติในประเทศไทยขณะนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 รายงานว่ามีจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 6 ก.ย. 2564) รวม 36,635,271 โดส ใน 77 จังหวัด ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 6 กันยายน 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ 722,377 โดส ฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 320,197 ราย ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 400,713 ราย ฉีดเข็มที่ 3 จำนวน 1,467 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม รวม 25,554,456 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด) จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม รวม 10,475,325 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์) จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม รวม 605,490 ราย
มีรายงานจากโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งว่า เมื่อวานนี้ (7กย.64)ครม. เห็นชอบจัดหาวัคซีนซิโนแวคเพิ่ม 12 ล้านโดส รองรับการฉีดวัคซีนสูตรผสม ร่นระยะเวลาฉีดสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เร็วขึ้น โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติ เห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงิน 4,254.36 ล้านบาท สำหรับจัดหาวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม จำนวน 12 ล้านโดส เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแก่ประชาชน ใน 4 กลุ่มเป้าหมาย ดังนี้
1.กลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง (ปอดอุดกั้น หอบหืด) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรังระยะที่ 5 (ไตวายเรื้อรัง) โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด รังสีบำบัดและภูมิคุ้มกันบำบัด โรคเบาหวาน และโรคอ้วน (BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 35 น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม) 2. ประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป 3. เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย เช่น ด่านควบคุมโรคตามชายแดน สถานกักกันโรค ทหาร ตำรวจ เจ้าที่เก็บขยะติดเชื้อเป็นต้น 4. ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
“การจัดหาวัคซีนซิโนแวคจำนวน 12 ล้านโดสนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนการจัดหาวัคซีนให้แก่ประชาชน เพราะเป็นวัคซีนที่ผลิตแล้ว ทำให้สามารถส่งมอบได้ในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. และยังเป็นการรองรับการฉีดวัคซีนสูตรผสมและเพิ่มความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศที่รวดเร็วยิ่งขึ้น”นายธนกร กล่าว
#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูลCOVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ
สำนักข่าว MC.news.com รายงาน