ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19วันจันทร์ที่ 6กันยายน 2564พบผูติดเชื้อรวม 13,988 ราย จำแนกเป็น การติดเชื้อใหม่ 13,544 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 444 ราย มีผู้ป่วยสะสม 1,265,659 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) แพทย์รักษาหายป่วยกลับบ้าน 17,284 ราย ยอดหายป่วยแล้วสะสม 1,105,432 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษาอยู่อีกจำนวน 148,622 ราย เสียชีวิต 187 ราย
ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวานนี้ วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน 2564 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 221,110,991 ราย มีอาการรุนแรง 105,661 ราย แพทย์รักษาหายแล้ว 197,598,728 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,575,333 ราย สำหรับอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อ จำนวน 40,765,356 ราย 2. อินเดีย ติดเชื้อ จำนวน 32,987,615 ราย 3. บราซิล ติดเชื้อ จำนวน 20,877,864 ราย 4. รัสเซีย ติดเชื้อ จำนวน 6,993,954 ราย 5. สหราชอาณาจักร ติดเชื้อ จำนวน 6,941,611 ราย ส่วน ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 29 มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 1,280,534 ราย
มีรายงานจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติแจ้งว่า ประเทศฟิลิปปินส์เตรียมยกเลิกคำสั่งห้ามผู้เดินทางเข้าประเทศจาก 10 ประเทศ รวมไทย มีผล 6 ก.ย. 64 โดย สนข.Inquirer รายงานว่า นายแฮร์รี โรเก โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์แถลงแผนการยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทางเข้าฟิลิปปินส์แก่ 10 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย มีผลบังคับใน 6 ก.ย.64 โดยผู้เดินทางเข้าฟิลิปปินส์ทุกรายต้องกักตัว 14 วัน เมื่อเดินทางมาถึงฟิลิปปินส์
สำหรับการฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติในประเทศไทยขณะนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 รายงานว่ามีจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 4 ก.ย. 2564)รวมทั้งสิ้น 35,587,676 โดส ใน 77 จังหวัด โดยภาพรวมยอดฉีดวัคซีนเมื่อ วันที่ 4 กันยายน 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ 369,512 โดส ฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 186,888 ราย ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 180,529 ราย ฉีดเข็มที่ 3จำนวน 2,095 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม จำนวน 25,104,942 ราย(จำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด)จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม จำนวน 9,879,371 ราย(จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์) จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม จำนวน 603,363 ราย ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข สธ. เผยแนวโน้มการติดเชื้อโควิดในไทยจลดลง แต่ยังคงใช้มาตรการป้องกันสูงสุดตลอดเวลา รวมทั้งเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมและทั่วถึง แบบการจัดซื้อวัคซีนโปร่งใส ไม่มีเงินทอน
รายงานจากสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่ากรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สภากาชาดไทย มูลนิธิอิสรชน มูลนิธิเวชดุสิต มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ มูลนิธิ SWING เครือข่ายอาสา Co Care และมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ปฏิบัติการลงพื้นที่เชิงรุกคัดกรอง “ริมคลองหลอด ปลอดโควิด” ช่วยเหลือผู้ไร้ที่พึ่ง ไร้บ้าน ยากไร้ บริการอิสระ
เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 และขาดโอกาสในการเข้าถึงการตรวจหาเชื้อ ในเบื้องต้นจะตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 Antigen Test Kit (ATK) ตั้งจุดบริการ หากตรวจพบว่าติดเชื้อก็จะตรวจซ้ำด้วยการตรวจแบบ RT-PCR และหากพบว่ามีผลติดเชื้อ และเป็นผู้ป่วยจิตเวชที่อยู่ในกลุ่มสีเขียว ก็จะนำส่งรับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา หากเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง จะประสานศูนย์เอราวัณ เพื่อนำส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครต่อไป และเมื่อคนไร้บ้านได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติแล้ว จะส่งตัวให้กลับไปอยู่กับครอบครัว หรือบ้านมิตรไมตรี และบ้านปันสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ทั้งนี้ ประชาชนที่พบเห็นหรือมีข้อมูลคนไร้บ้านที่ติดเชื้อโควิด-19 สามารถแจ้งศูนย์ประสานงานศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตสะพานสูง (คนไร้บ้าน) ซึ่งเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้ที่หมายเลข 09 4450 5204
#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูลCOVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ
สำนักข่าว MC.news.com รายงาน