พื้นที่โฆษณา

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19วันศุกร์ที่ 3 กันยายน 2564 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 14,653 ราย จำแนกเป็นติดเชื้อใหม่  14,397 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 256   รายผู้ป่วยสะสม 1,220,277  ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)หายป่วยกลับบ้าน 18,262  รายหายป่วยสะสม 1,049,540  ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)ผู้ป่วยกำลังรักษา  159,800 รายเสียชีวิต 271  ราย

พื้นที่โฆษณา

ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวานนี้ วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน 2564 พบยอดผู้ติดเชื้อรวม 219,265,651 ราย  มีอาการรุนแรง 105,789 ราย  แพทย์รักษาหายแล้ว 196,041,211 ราย มีเสียชีวิต 4,545,159 ราย แจงอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดได้แก่ อันดับ 1. สหรัฐอเมริกา  มีจำนวน 40,330,712 ราย  อันดับ2. อินเดีย  จำนวน 32,856,863 ราย อันดับ 3. บราซิล  จำนวน 20,804,215 ราย อัน ดับ 4. รัสเซีย จำนวน 6,937,333 ราย อันดับ 5. สหราชอาณาจักร จำนวน 6,825,074 ราย โดยที่ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 29 จำนวน 1,234,487 ราย

พื้นที่โฆษณา

สำหรับการฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม  จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 1 ก.ย. 2564)รวม 33,427,463 โดส ใน 77 จังหวัด ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 1 กันยายน 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ 827,462 โดส ฉีด เข็มที่ 1 : 352,434 ราย ฉีด เข็มที่ 2 : 471,945 ราย ฉีดเข็มที่ 3 : 3,083 ราย  จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม จำนวน24,147,532 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด) จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม จำนวน 8,684,695 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์)จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม จำนวน 595,236 ราย

พื้นที่โฆษณา

มีรายงานการฉีดวัคซีนผู้ป่วยติดเตียงแล้ว กว่า 2,000 ราย โดยกทม.ได้เพิ่มช่องทางการลงทะเบียนฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ผู้สูงอายุที่เดินทางไปฉีดวัคซีนนอกบ้านไม่ได้ ให้ได้ฉีดวัคซีนที่บ้านได้สะดวก  ตั้งแต่เริ่มเปิดลงทะเบียนจนถึงวันที่ 1 ก.ย. มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 7,072 ราย  ทีมสาธารณสุขของ กทม. ได้โทรประสานติดต่อกลับไปยังผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว 5,785 ราย หลังจากโทรสอบถามแล้ว ก็ได้วางแผนฉีดวัคซีนในพื้นที่ ให้ทีมสาธารณสุขเดินทางไปฉีดในแต่ละวันได้หลาย ๆ บ้านที่อยู่พื้นที่ใกล้กัน ทำให้ตอนนี้ฉีดวัคซีนสะสมไปแล้ว 2,086 ราย ทั้งนี้ กทม. ได้เร่งโทรติดต่อผู้ป่วยที่ลงทะเบียนให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงหากติดเชื้อ ทำให้ทุก ๆ คนปลอดภัยจากโควิด-19 สำหรับผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และผู้ที่ไม่สามารถเดินทางไปฉีดวัคซีนนอกบ้านได้ สามารถลงทะเบียนได้ที่ 👉 (ติดตามรายละเอียดที่:https://forms.gle/vW5meyKHz5dVjz2q7)

พื้นที่โฆษณา

ตามที่มีข่าวการพบเชื้อโควิดสายพันธุ์ C.1.2 ในประเทศจีนและสหราชอาณาจักรนั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีการเฝ้าระวังเชื้อกลายพันธุ์ โดยทำการสุ่มตรวจสารพันธุกรรมเชื้อจากทั่วประเทศจำนวน 500 ตัวอย่างต่อสัปดาห์ รวมทั้งเฝ้าระวังและตรวจสายพันธุ์ในผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีรายงานเชื้อกลายพันธุ์ ขณะนี้ยังไม่พบสายพันธุ์ C.1.2 ในไทย โดยสายพันธุ์ที่พบในประเทศไทยร้อยละ 92.90 ยังคงเป็นสายพันธุ์เดลตา

ส่วนมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของ นร. และ น.ศ. ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้มีการโอนเงินแล้ว 2.17 หมื่นล้านบาท กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โอนเงินแก่มหาวิทยาลัยแล้ว 29 แห่ง รวม 2,250 ล้านบาท เป็นส่วนลดค่าเทอม 1/2564 ให้ น.ศ. ที่ยังไม่ได้จ่ายค่าเทอมสูงสุด 50% ส่วนคนที่จ่ายแล้ว มหาวิทยาลัยจะคืนเงินให้ มหาวิทยาลัยที่เหลือให้เร่งยืนยันข้อมูล น.ศ. ที่ส่งให้ อว. โดยเร็ว สำหรับ นร. ระดับ อนุบาล – ม.6 กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โอนเงิน 1.95 หมื่นล้านบาท ให้หน่วยงานที่ดูแล รร. ทั้ง สพฐ. กศน. สอศ. และ สช. ซึ่งโรงเรียนจะโอนหรือจ่ายเงินสดให้ผู้ปกครอง ตั้งแต่วันที่ 1 – 7 ก.ย. หากไม่ได้รับในช่วงเวลาดังกล่าว ติดต่อ รร. หรือ โทร. 1579 และ 1693  

#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูลCOVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ 

สำนักข่าว MC.news.com รายงาน