พื้นที่โฆษณา

หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศผลรับรองการเลือกสมาชิก และ นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลาง นายกิติพงศ์ พงศ์สุรเวท ผู้ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีโพธิ์กลาง ได้จัดการแถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลตามข้อกฎหมาย พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 14 ) พ.ศ.2552 มาตรา 48 ทศ วรรคหนึ่ง  และวรรคสาม ที่กำหนดให้นายกเทศมนตรีก่อนจะเข้าบริหารงานต้องแถลงนโยบายต่อสภาภายในสามสิบวันนับจากวันประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง

พื้นที่โฆษณา

การแถลงนโยบายมีขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2564 เวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลโพธิ์กลาง โดยมีนายวิฑูร สากำปัง ประธานสภา พร้อมสมาชิก,ข้าราชการเทศบาล และผู้นำชุมชน-ประชาชนจากหมู่บ้านต่างๆเข้าร่วมรับฟังการแถลงนโยบายในครั้งนี้  นายกิติพงศ์ พงศ์สุรเวท นายกเทศมนตรีแถลงต่อสภาว่า นโยบายที่ได้แถลงในวันนี้อยู่ภายใต้นโยบาย ”โพธิ์กลางเมืองคุณย่าน่าอยู่ เมืองสะอาด เมืองปลอดภัย เมืองทันสมัย และเมืองแห่งความสุข” ที่กำหนดไว้ 5 ด้าน

พื้นที่โฆษณา

ซึ่งทั้ง 5 ด้านประกอบไปด้วย นโยบายด้านการบริหารและพัฒนาองค์กร โดยยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข สร้างภาพลักษณ์ใหม่ในการทำงานที่ฉับไวเพื่อประชาชน เน้นการบริหารงานแบบมืออาชีพ ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ให้ประชาชนมีส่วนร่วมตามหลักธรรมาภิบาล ฯลฯ  ปรับปรุงศูนย์ร้องทุกข์ให้ทันสมัยด้วยระบบเทคโนโลยีแอพพลิเคชั่นในการเข้าถึงของประชาชน  จัดตั้งสภาที่ปรึกษาพัฒนาการเมือง ให้ข้อคิดและเสนอแนะ ร่วมสร้างสรรค์พัฒนาโพธิ์กลาง

พื้นที่โฆษณา

นโยบายด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและความปลอดภัย โดยมีโครงการเร่งด่วนในการซ่อมสร้างถนนในชุมชนหมู่บ้าน ทั้งคอนกรีตและลาดยาง ให้มีมาตรฐาน-คุณภาพในทุกเม็ดเงิน  เส้นทางเชื่อมระหว่างตำบล สร้างท่อระบายน้ำให้ทั่วถึง พัฒนาระบบประปาให้มีความสะอาด ติดตั้งไฟฟ้าสาธารณะ ขยายเขตไฟฟ้า ฯลฯ นโยบายสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เร่งสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมวัคซีนทางเลือก ให้กลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด ปรับปรุงการจัดเก็บขยะ จัดสร้างสวนสุขภาพ พร้อมสร้างศูนย์บริการสาธารณสุขชุมชน พร้อมจัดให้มีรถตู้ฉุกเฉินเพื่อบริการประชาชน ฯลฯ

นโยบายด้าน การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว เป้าหมายหลักคือการพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของเทศบาลให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพ สนับสนุนและส่งเสริมทุกกิจกรรมของสถาบันการศึกษา รวมทั้งศูนย์การศึกษานอกระบบตามอัธยาศัย ให้มีการเรียนการสอนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 ภาษา รวมทั้งส่งเสริมการกีฬาทุกประเภท ทั้งกีฬาผู้สูงอายุ-คนพิการ ฯลฯ สุดท้ายคือนโยบายด้านการเกษตรและเศรษฐกิจพอเพียง โดยจะมีการส่งเสริมอาชีพเกษตรกร ให้ผลิตเป็นสินค้าเกษตรปลอดสารพิษ ต่อยอดการทำการเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียงแบบโคกหนองนาโมเดล พร้อมทั้งสนับสนุนทุกลุ่มการเกษตรให้เกิดความเข้มแข็งและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

ทีมข่าว MC.news.com รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา