พื้นที่โฆษณา

ตำรวจภูธรภาค 3 โดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์  หลักบุญ ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.คีรีศักดิ์  ตันตินวะชัย   รอง ผบช.ภ.3 (หน.ปส), พล.ต.ต.ไพศาล  ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.3 (ผช.ปส 1) และ พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต  ฮามคำไพ รอง ผบช.ภ.3 (ผช.ปส 2) ได้แถลงข่าวผลงานที่สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด เร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติ การทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นในโดยสรุปจำนวน 5 คดี ตามแผน “ยุทธการพิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้” !!! จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 28 คน ของกลางยาบ้า 440,000 เม็ด ลุยยึดทรัพย์อีก 20 ล้านบาท

พื้นที่โฆษณา

คดีที่ 1 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔  พ.ต.อ.ประสงค์  เรืองเดช , พ.ต.อ.ชลาสินธุ์  ชลาลัย , พ.ต.อ.เดชพล  เปรมศิริ , พ.ต.อ.สมบัติ  หงษ์ทอง รอง ผบก.สส.ภ.3  สั่งการให้ พ.ต.อ.ยุทธพงษ์  รอดนวล ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3, พ.ต.ท.ภูมิ  ทองโพธิ์  รอง ผกก.ฯ พ.ต.ท.พงศกร  พลยางนอก รอง ผกก.ฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 , กก.สส.2  ร่วมบูรณาการกับ ภ.จว.อุบลราชธานี ภ.จว.บุรีรัมย์ และ ภ.จว.ศรีสะเกษ หน่วยงานทหาร ปกครอง  สืบสวนทราบว่ามีเครือข่ายผู้ค้ายาบ้ารายสำคัญ เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน จะลักลอบนำยาบ้าเข้ามาจำหน่ายให้กับผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 หลายจังหวัด  และกระจายแพร่ระบาดถึงผู้ค้ารายย่อย และผู้เสพอย่างรวดเร็ว จึงได้สืบสวนเริ่มจากผู้เสพและผู้ค้ารายย่อย จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน  8  คน    พร้อมของกลาง  ยาบ้า จากการตรวจยึด จำนวน 136,000 เม็ด ( 68 มัด) กับยาบ้า จากการตรวจค้นตัวผู้ถูกจับ เพิ่มเติม 427 เม็ด รถยนต์กระบะ จำนวน 3 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน  โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง  รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดตาม พ.ร.บ.มาตรการฯประมาณ  1,300,000 บาท ผู้ต้องหาทุกคนให้การสอดคล้องต้องกัน ว่าได้ติดต่อซื้อขายยาบ้าจากผู้ค้าชาวลาว ซึ่งจะได้สืบสวนจับกุมต่อไป

พื้นที่โฆษณา

.คดีที่ 2 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564  พ.ต.อ.วรการ  ป้องกัน  ผกก.สภ.วารินชำราบ , พ.ต.ท.บวรศักดิ์  คำรังษี  รอง ผกก.ฯ , พ.ต.ต.พิศาล ศุภโกศล  สว.สส.ฯ ได้สั่งการให้ชุดจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ  สภ.วารินชำราบ  ประกอบด้วย  ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์  โชติรัตน์ ,  ด.ต.ชูเกียรติ บญฉิมพลี,    ด.ต.โกวิทย์  สะเดา, ด.ต.วสันต์  เตคำหัน, ส.ต.อ.ธีระยุทธ  สุดอุดม, ส.ต.อ.สุรนาท  แสนสุพรรณ และส.ต.ท.อัคคเดช  สุดอุดม ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 42,000  เม็ด  และ ตรวจยึดรถยนต์ ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ จำนวน 1 คัน  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบสวนหาข่าวทราบว่าจะมีการส่งมอบยาบ้ากันที่ถนนวาริน-พิบูล บริเวณบ้านวังกาฮุง หมู่ 1 ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ จว.อุบลราชธานี โดยรถที่จะมาส่งมอบยาบ้านั้นเป็น รถยนต์ยี่ห้อ อิซูซุ รุ่น ดีแม็ค  สีขาว 4 ประตู  ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผนจับกุม  และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนได้ พร้อมด้วยของกลาง   จึงได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาให้บุคคลทั้ง 3 คน ทราบ และนำตัวพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน  สภ.วารินชำราบ  เพื่อดำเนินคดีต่อไป  

พื้นที่โฆษณา

.คดีที่ 3 นายธัชกร  หัตถาธยากูล ผวจ.บุรีรัมย์, พล.ต.ต.รุธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.นิรันดร์ แก้วอิน รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์  อำนวยการสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ,ตชด.21 ,215 , 216 , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยราช ฝ่ายปกครอง จว.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ทหาร ขกท.  ศปก.ทบ.( มว.ขกส.2, ขกท.กกล.สุรนารี ) บูรณาการปฏิบัติในการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด จับกุมทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ผู้ต้องหา 6 คน ตรวจยึดยาบ้ารวม 50,000 เม็ด และตรวจยึด รถจักรยานยนต์ 6 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ประมาณ 200,000 บาท โดยคดีนี้เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ต่อเนื่องวันที่  4 กุมภาพันธ์ 2564  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้จับกุมตัวผู้ต้องหา  6 คน และได้ทำการซักถาม สืบสวนขยายผลต่อเนื่อง ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 สามารถจับกุมเครือข่ายผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก จำนวน 2 คน รวมจับกุมผู้ต้องหา 6 คน ของกลางยาบ้าจำนวน 50,000 เม็ด ต่อมาชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ระหว่างขยายผลสืบสวนเส้นทางการเงินและผู้เกี่ยวข้องเพื่อจับกุมทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดต่อไป

.คดีที่ 4 วันที่  3  กุมภาพันธ์  2564 ภายใต้การอำนวยการของ  พล.ต.ต.ฉลอง  สุขจันทร์  ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ, พ.ต.อ.ไพโรจน์  ขุนหมื่น รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ, พ.ต.อ.นิรันดร์  คิดบรรจง  ผกก.สืบสวน ภ.จว.ชัยภูมิ  ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.ชัยภูมิ  และชุดสืบสวนขยายผลฯ ภ.จว.ชัยภูมิ  นำโดย พ.ต.ท.พัฒนะ  สุภศักดิ์พัฒน์ รอง ผกก.ฯ ,พ.ต.ต.ปัญญา   พิสิฐปภา  สว.สส.ฯ  ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา  1 ราย พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน   42,005  เม็ด  ข้อหา  มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย  สถานที่เกิดเหตุ  บ้านไม่ทราบเลขที่  กลางสวนยางพารา บ้านร่องแว่  ต.ทุ่งลุยลาย  อ.คอนสาร  จว.ชัยภูมิ 

คดีนี้จากการสืบสวนหาข่าวทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า) ในเขต อ.คอนสาร จว.ชัยภูมิ โดยมีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าให้กับวัยรุ่น ที่บริเวณบ้านไม่มีเลขที่ กลางสวนยางพารา บ้านร่องแว่ ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จว.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นสวน ชุดจับกุมได้ติดตามพฤติการณ์เรื่อยมา ต่อมาสืบสวนทราบว่า ได้นัดจำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่น ที่บ้านไม่ทราบเลขที่ดังกล่าว ชุดจับกุมได้เข้าไปตรวจสอบพบอยู่ในสวนยางข้างบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นตัวและบ้านพักพบยาบ้าจำนวน 24,005 เม็ด  และจากการซักถามขยายผลให้การว่ายังมียาบ้าซุกซ่อนอยู่บริเวณสวนยางพารา โดยวิธีการฝังดิน ได้พาเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบและตรวจยึดยาบ้า ยังจุดฝังดินจำนวน 2 จุด พบยาบ้าอีกจำนวน ๙ มัด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันแจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาให้ทราบ จากนั้นได้นำตัวพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน  เพื่อดำเนินคดี และจะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป     

สุดท้ายคดีที่ 5 วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564  ภ.จว.นครราชสีมา โดย พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย  ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา,  พ.ต.อ.พิษณุ  วัตถุ  รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา, พ.ต.อ.ธนัญชัย   เพียรช่าง รอง ผบก.ภ.จว.นครราฃสีมา,  พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช  ผกก.สภ.สีคิ้ว. พ.ต.ท.ชินภานุ จิตอามาตย์  รอง ผกก.สส.สภ.สีคิ้ว, พ.ต.ท.สุชาติ ซ้อนพุดซา สว.สส.สภ.สีคิ้ว  และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สีคิ้ว  ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ๘ คน มียาบ้า ประมาณ 170,600 เม็ด (หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นหกร้อยเม็ด) และ สารไอซ์  ชั่งน้ำหนักรวมถุงได้  22.33 กรัม อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน ๒ กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 ม.ม. จำนวน  4 นัด โทรศัพท์มือถือ จำนวน  5 เครื่อง จักรยานยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิด รวม 3 คัน และรถยนต์ 1 คัน (ดำเนินการยึดทรัพย์ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.๒๕๓๔)

คดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สีคิ้ว ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย จากการขยายผล รับว่าได้ซื้อยาบ้า โดยติดต่อซื้อขายยาบ้าผ่านทางแอพพลิเคชั่น ซึ่งมีการซื้อขายยาเสพติดต่อกันมาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนขยายผล  สามารถจับกุมผู้ต้องหารวม ๘ คน ดังกล่าว พร้อมของกลางรายการที่ 1 ยาบ้า จำนวน 170,600 เม็ด  และของกลางรายการที่ 2 สารไอซ์ จำนวน 22.33 กรัม และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมผู้ต้องหาที่ 1 มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวส่ง พงส.สภ.สีคิ้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

.พล.ต.ท.ภานุรัตน์ หลักบุญกล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค ๓ ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการ ทุกแห่ง ในการแจ้งเบาะแส/ข้อมูล  ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถานประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙  สายด่วน ๑๙๑  และ  Application  Police I lert U ได้ตลอด  ๒๔ ชม.  เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติด ในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น  เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป

ทีมข่าว MC news.com รายงานข่าวจากจังหวัดนครราชสีมา

.