พื้นที่โฆษณา

ความคืบหน้ากรณีพบผู้สูงอายุจำนวน 13 ราย ในพื้นที่ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถูกเทศบาลตำบลจอหอ เรียกเก็บเงินค่าเบี้ยยังชีพคืนย้อนหลัง ตามคำสั่งของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง หลังจากตรวจพบว่าผู้สูงอายุเหล่านั้นได้รับเงินบำนาญพิเศษมาก่อนแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 

ล่าสุดนายวิเชียร  จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ถูกเรียกเงินคืนว่า  ขณะนี้ได้สั่งการให้ทางท้องถิ่นจังหวัดเข้าไปตรวจสอบและเข้าไปดูแล ซึ่งเรื่องนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องิถิ่นเอวก็ถูกทวงจากหน่วยตรวจสอบ  ส่วนเรื่องที่จะให้พี่น้องประชาชนผ่อนชำระคืนเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของประชาชนนั้น ได้ให้ทางท้องถิ่นเข้าไปเจรจาตรวจสอบดูว่าระเบียบข้อกฏหมายสามารถดำเนินการได้มากน้อยแค่ไหน  ส่วนตนเห็นใจพี่น้องประชาชนผู้สูงอายุ  ที่น่าจะไม่ทราบข้อกฎหมายที่ชัดเจนและรับเงินด้วยความบริสุทธิ์ใจ  การรับเงินมาในแต่ละครั้งของผู้สูงอายุ เมื่อได้มาคงจะใช้เงินหมดไปกับชีวิตประจำวัน  หากมีการเรียกคืนเป็นก้อนคงจะเกิดความลำบากกับประชาชน  อาจจะต้องหาวิธีการช่วยเหลือผู้สูงอายุเหล่านั้น 

พื้นที่โฆษณา

อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นได้ให้ทางท้องถิ่นเข้าไปตรวจสอบจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมด ทั้งจังหวัดมีมีจำนวนกี่ราย เป็นจำนวนเงินมากน้อยเพียงใดเพื่อช่วยเหลือ  ชาวบ้านเองไม่น่าจะมีเจตนาที่จะโกงหรือทุจริตเงินของรัฐแต่อย่างใด  ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากระบบการเก็บข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและน่าจะยังไม่ทันสมัยถึงให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น  อย่างไรก็ตามอยากให้พี่น้องผู้สูงอายุสบายใจทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งดูข้อกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือทุกรายอย่างแน่นอน

พื้นที่โฆษณา

Cr:ปชส.นม.สำนักข่าว MC.news.com รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา