พื้นที่โฆษณา

ผู้ว่าโคราชออกคำสั่งด่วนให้ผู้เดินทางมาจาก10จังหวัด ได้แก่กรุงเทพมหานครฯ-สมุทรปราการ-นนทบุรี-ปทุมธานี-ปัตตานี-ยะลา-สงขลา-ภูเก็ต-ชลบุรีและเชียงใหม่ต้องรายงานตัวกับ อสม.ภายใน  24 ชม.เนื่องจากถูกระบุว่าเป็นพื้นที่สิ่งต่อการนำพาเชื้อโรค ย้ำหากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ย้ำนโยบายผ่อนปรนมาตรการต่างๆต้องฟังคำสั่งและประกาศจากส่วนกลางเท่านั้น

พื้นที่โฆษณา

ตามที่จังหวัดนครราชสีมา  ได้ร่วมประชุมทางไกลร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางปฏิบัติราชการภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดในสังกัดกระทรวงมหาดไทย คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด  สรุปข้อสั่งดังนี้ 

ให้ผู้ว่าจังหวัดทุกแห่ง ในฐานประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีอำนาจในการออกคำสั่งประกาศ แต่เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสนการพิจารณาออกประกาศคำสั่งใดๆ ให้รอฟังการสั่งการเชิงนโยบายจาก ศบค. และ ศบค.มหาดไทย เพื่อให้เกิดเอกภาพพร้อมกันทั่วประเทศ และมีข้อกฏหมายรองรับ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัตินอกจากนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ลดลง รัฐบาลจึงมีมาตรการผ่อนปรนใน 6 กิจการ/กิจกรรม เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตและทำมาหากินได้ แต่ต้องเป็นไปตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำความเข้าใจและสร้างการรับรู้ให้กับผู้ประกอบการใน 6 กิจกรรม/กิจการ ดังกล่าว

หนึ่งในจำนวน 6กิจกรรมที่ได้รับการปลดล็อคผ่อนคลายก็คือกิจการร้านอาหารและร้านค้าซึ่งไม่รวมถึงสถานบริการผับ บาร์ ร้านค้าข้างต้นสามารถจำหน่ายสุราได้แต่ให้นำกลับไปบริโภคที่บ้าน หรือหากจะดื่มในร้านก็จะต้องให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการที่กำหนดเป็นมาตรการ และต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการ

นอกจากนี้  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ เน้นย้ำ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้เกี่ยวข้อง เร่งสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ในทุกช่องทาง เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจและปฏิบัติตนได้ถูกต้อง รวมถึงสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด รวมทั้งต้องดำเนินการกำกับ ติดตาม และประเมินการดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข ทั้งนี้ หากทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการนี้ การดำเนินชีวิตปกติแบบใหม่ หรือ New Normal จะเกิดขึ้นได้เร็ว โดยทุกคนมีสุขภาพอนามัยดี ปลอดภัย และเศรษฐกิจของประเทศจะเดินต่อไปได้

ทั้งนี้ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ขอให้ประชาชนชาวโคราชทุกคน ได้ปรับการดำเนินชีวิตปกติแบบใหม่ หรือ New Normal เพื่อมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของ โรคโควิด19 ตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ ควรวางแผนในการดำเนินชีวิต เพื่อให้เราผ่านวิกฤตโรคโควิด-19 นี้ ไปด้วยกัน โดยการปฏิบัติตนเองในการส่งเสริมอนามัยส่วนบุคคลให้เป็นพฤติกรรมที่ยั่งยืน  ตามมาตรการของจังหวัดนครราชสีมา คือ “ล้างมือทั้งวัน  กินร้อน    ช้อนฉัน ห่างกัน 2 เมตร  และสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยทุกคน”  

ด้านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ขอเรียนให้ทราบว่า จังหวัดนครราชสีมา มีดำเนินงานผลการคัดกรองประชาชน (ยอดสะสม ณ วันที่ 3 ม.ค. – 1 พ.ค.2563) จำนวนทั้งหมด 89,042 คน พบว่า  มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อ  จำนวน   805 ราย (เก่า 793+ ใหม่ 12 ราย)  ตรวจไม่พบเชื้อ   จำนวน   782 ราย  รอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ   จำนวน   4 ราย ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโรค COVID – 19  จำนวน    19  ราย  แพทย์ได้ทำการการรักษาพยาบาลหายแล้ว  จำนวน  13 ราย  เดินทางกลับบ้าน รวมจำนวน  12 ราย (รายที่ 4, 3, 5, 9, 1, 6, 12, 11, 10, 2, 15,13)  กักตัวต่อ รร.ปัญจดารา  1 ราย (รายที่ 18) ยังรักษาอยู่ จำนวน 6 ราย  (ที่ รพ.มหาราช 3, รพ.สูงเนิน 1, รพ.โชคชัย 2 ราย)  คนไข้มีอาการ มีอาการดีขึ้น 5 ราย, อาการคงที่ 1 ราย

ยอดกักตัว สะสม 180 ราย, กักตัวครบ 118 ราย มีผู้อยู่ในสถานที่กักตัวปัจจุบัน 62 ราย ได้แก่ รร.ปัญจดารา 14 ราย, รพ.เทพรัตน์ฯ 1 ราย, รพ.ขามทะเลสอ 3 ราย, รพ.ปากช่อง 1 ราย และกักตนเองที่บ้าน 43 ราย สรุปผู้เดินทางจากต่างประเทศ เข้าจังหวัดนครราชสีมา Local Quarantine จำนวน 7ราย (เมียนมา 7ราย ) ผู้เดินทางจาก State Quarantineเข้าจังหวัดนครราชสีมาเพื่อ(HQ) จำนวน 30 ราย(สาธารณรัฐเกาหลี 20,มาเลเซีย 2, เยอรมัน 2 และ อินโดนีเซีย,แคนาดา, ฮังการี,อเมริกา, อังกฤษ ,รัสเซีย ประเทศละ 1 ราย(รายใหม่มาจากเกาหลีใต้6ราย) จากข้อมูลโปรแกรม COVID 19 KORAT พบว่ามีผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดนครราชสีมา รายงานจาก 32 อำเภอ  รวม 50,528 ราย เฝ้าระวังครบ 14 วันจำนวน 46,003ราย  ปัจจุบันติดตามต่อเนื่องจำนวน 4,525 ราย

ทีมข่าว  MC.news.com รายงาน