วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา  กลุ่มวิชาชีพช่าง จ.นครราชสีมา นำโดย นาย สมยศ พัดเกาะ  และกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยนาย พิธา เสือเขียว  ได้เดินทางมายืนหนังสือกับ นาย วิเชียร จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  เพื่อยื่นข้อเรียกร้องขอความช่วยเหลือเนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของ  เชื้อไวรัส COVID – 19  

นาย สมยศ พัดเกาะ  ตัวแทนกลุ่มวิชาชีพช่าง จ.นครราชสีมา  กล่าว่า การที่ตนกับพวกได้มายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID – 19 ส่งผลให้เกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก และรัฐบาลเองก็ได้ออกนโยบายให้ความช่วยเหลือทุกภาคส่วนตามที่ปรากฏเป็นข่าว ดังนั้นทางกลุ่มวิชาชีพ  ซึ่งประกอบไปด้วยผู้รับเหมาทุกวิชาชีพช่าง  ยังคงเห็นว่าทางกลุ่ม ควรจะสะท้อนปัญหาจากนโยบายที่ทางภาครัฐบาลได้นำออกมาใช้  เพื่อให้รัฐบาลนำไปปรับปรุงแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงประเด็น  

โดยทางกลุ่มมีข้อเรียกร้องและเสนอแนวทางดังนี้   1)  ขอให้ท่านติดต่อกับสถาบันการเงินเช่นธนาคารและไฟแนนซ์  เพื่อให้หยุดพักชำระหนี้  ทั้งเงินต้นและเงินดอกเบี้ยไว้ก่อน เพื่อให้ลูกค้านำเงินที่ต้องส่งไปเลี้ยงชีพ   2) ผู้รับเหมารายย่อย ที่มีปัญหามาก  ขอให้ท่านช่วยประสานงานกับผู้ว่าจ้างให้ช่วยเหลือ  เช่นการจ่ายเงินที่ค้างจ่ายและไม่คิดค่าปรับที่งานล่าช้า   3)   ขอให้ท่านจัดโรงทานเป็นการถาวร เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน  โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีคนตกงานจำนวนมาก   4) ขณะนี้มีคนที่ขาดรายได้เป็นจำนวนมาก  จังหวัดควรมีกองทุนเยียวยา เช่นค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเช่าบ้านค่าอาหาร   5 )  ขอให้ผู้ว่าจัดหน้ากากให้คนในชุมชนได้ครบทุกคนด้วย   ถ้าจะให้นโยบายของท่านที่ว่าคนโคราชต้องใส่หน้ากากทุกคน   ต้องแจกให้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์คือ 1.6 ล้านชิ้น    6)  อสม . น่าเห็นใจมากออกไปตามกลุ่มเสี่ยงจาก  กทม.  ถูกรุมดุด่าน่าสงสารท่านต้องช่วยคุ้มครองและให้กำลังใจพวกเขาด้วย

นาย พิธา เสือเขียว  ตัวแทนจากผู้ประกอบการรายย่อย  จังหวัดนครราชสีมา  กล่าวว่า  ปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID – 19   ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตอย่างรุนแรง   มหันตภัยร้ายครั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม   ซึ่งทำให้เกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน    รัฐบาลเองก็ได้ออกมาตรการนโยบายความช่วยเหลือ   โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมาเป็นลำดับ    แต่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยยังคงมีความกังวลใจในเรื่องของความช่วยเหลือ    ที่ยังไม่ครอบคลุมการแก้ปัญหา    ทางกลุ่มจึงมีความประสงค์ที่จะขอยื่นข้อเรียกร้องบางประการ

เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมดังนี้    1)  ขอให้จังหวัดทำการสำรวจร้านค้าในจังหวัดที่ปิดร้าน  และแจ้งต่อสาธารณะ  และต่อรัฐบาลโดยด่วน    2)  ขอให้ท่านติดต่อกับสถาบันการเงิน  เช่นธนาคารและไฟแนนซ์ เพื่อให้หยุดรับค่างวดไว้ก่อน  เพื่อให้ลูกค้านำเงินที่ต้องส่งไปเลี้ยงชีพก่อน    3)  ขอให้จังหวัดประสานกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทุกแห่งรับสมัครงานชั่วคราว  เช่นมาทำหน้ากากมาพัฒนาชุมชน  เพื่อให้คนตกงานได้มีเงินเลี้ยงครอบครัว   4)  ขอให้ท่านจัดโรงทานเป็นการถาวรเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน  โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีคนตกงานเป็นจำนวนมาก   5 )  ขณะนี้คนที่ขาดรายได้เป็นจำนวนมาก  จังหวัดควรมีกองทุนเยียวยา  เช่นค่าเลี้ยงดูบุตร   ค่าเช่าบ้าน  และค่าอาหาร    6)  จังหวัดต้องมีหน่วยตรวจ แบบสแกนทุกพื้นที่    ว่าใครมีไข้และเป็นกลุ่มเสี่ยง   อาจจะใช้งบจ้างเพื่อให้ทุกคนมีรายได้และทำการอบรมก่อนทำงาน

ทีมข่าว MC.news.com รายงาน