ผู้ว่าโคราชเรียกประชุม หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด เพื่อวางมาตรการคุมเข้มเชิงลุก หลัง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  วางมาตรการสั่งเพิ่มด่านตรวจค้นหาผู้ฝ่าฝืนประกอบธุรกิจ และพวกเห็นแก่ตัวไม่รับผิดชอบต่อผู้คนในสังคม ย้ำดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ขณะที่มีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 4 ราย รวม 11 ราย เด็กหญิง วัย 1 ขวบ 2 เดือน และ  9 ขวบติดเชื้อกันทั้งบ้าน  

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2563 เวลา 14.30 น.ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนายอำเภอ 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา ผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เร้น เพื่อวางมาตรการในการควบคุมสถานการณ์ในระดับจังหวัดหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาล

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้มีการหารือเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจจะต้องบังคับใช้กฏหมายกับกลุ่มเสี่ยงที่ไม่ยอมกักตัวเอง 14 วัน ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งร้านอาหาร สถานที่ที่ยังลักลอบเปิดให้บริการกับประชาชน ในรูปแบบนั่งรับประทานที่ร้าน ซึ่งถือว่าเป็นข้อต้องห้าม รวมทั้งการเพิ่มจำนวนด่านตรวจเข้มระหว่างจังหวัด จากเดิม 8 จุด เป็น 12 จุด

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พบผู้ป่วยเพิ่ม อีก 4 ราย รวมเป็น 11 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย เป็นหญิง อายุ 29 ปี  เด็กหญิง อายุ 1.2 ปี ( ซึ่ง 2 ราย นี้ เป็นญาติกัน ติดเชื้อจาก ผู้ป่วยรายที่ 7  ที่ทำงานที่ผับแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท)  เด็กหญิง อายุ  9 ปี (ติดเชื้อมาจาก แม่ ที่ป่วยติดเชื้อโควิดที่ กทม. ) อีก ราย เป็น ชาย อายุ 36 ปี (เป็นเซียนมวยติดเชื้อจากสนามมวย ที่ กทม.)   ในส่วนอาการของผู้ป่วยทั้ง 11 ราย มีอาการดีทั้ง11ราย นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 9 ราย โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 1 ราย และโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา  1 ราย

โดยเป็นผลจากการดำเนินงานคัดกรองประชาชนจำนวน 34,111 ราย (ยอดสะสม ณ วันที่ 3 ม.ค  -26 มี.ค. 2563 เวลา 08.30 น.)  กรณีการเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ(PN) มีจำนวน 235 ราย (เดิม 227+เพิ่ม8) ไม่ป่วย 235 ราย กักตัวครบ 14 วัน จำนวน 155 ราย ปัจจุบันยังติดตามอย่างต่อเนื่องจำนวน  80 ราย  จากข้อมูลโปรแกรม KOVID 19 KORAT พบว่ามีผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดนครราชสีมา รวมจำนวน  1,124 ราย แบ่งเป็นมาจากกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน  786  ราย และเดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ 338 ราย โดยมีการคัดกรองไข้ที่ด่านตรวจ 37.3 องศาเซลเซียสเป็นเกณฑ์  

นอกจากนี้จังหวัดนครราชสีมา ได้ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCOVID-19  เน้นมาตรการ“ล้างมือทั้งวัน กินร้อน ช้อนฉัน ห่างกัน 2 เมตรและสวมหน้ากากผ้าทุกคน” โดยมีมาตรการสำคัญสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดนครราชสีมา ดังนี้ 1). ให้ผู้ที่เดินทางเข้ารายงานตัวกับผู้นำชุมชน หมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านกำนัน อบต. เทศบาล และ อสม. ได้ติดตามสำรวจ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์   2). ดำเนินการกักตัวเอง เป็นเวลา 14 วัน                              3).สังเกตอาการตนเองว่ามีไข้ ไอ เจ็บคอ และมีอาการหอบเหนื่อย หรือหากมีอาการให้ติดต่อสถานบริการในพื้นที่ใกล้บ้าน   และปฏิบัติตนตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัด เช่นการล้างมือบ่อยๆ ด้วยการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้บ่อยขึ้น โดยจังหวัดนครราชสีมา เปิดสายด่วนแจ้ง-สอบถาม เรื่อง COVID-19  มือถือ 08-1265-5604  หรือหมายเลขโทรศัพท์ 044-465011-4 ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา

ทีมข่าวMC.news.com รายงาน