วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2563 ณ.ลานอเนกประสงค์โรงเรียนเทศบาล 4 เทศบาลนครนครราชสีมา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการแนวทางการเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จัดขึ้นโดยนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา มีเป้าหมายให้ประชาชนในเขตเมืองได้รับทราบแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค “โควิด-19” หรือไข้หวัดโคโรน่า และนำไปใช้ปฏิบัติอย่างเหมาะสมตามในการรักษาสุขภาพให้ปลอดโรคภัยไข้เจ็บ พร้อม ได้มอบหน้ากากอนามัย จำนวน 30,000 ชิ้น แด่พระภิกษุสงฆ์ และมอบให้กับโรงพยาบาล หน่วยบริการสาธารณสุข ผู้นำ 90 ชุมชนในเขตเทศบาล สถานศึกษา สถานประกอบการ ตลาด และสถานีขนส่ง
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในประเทศไทยมีโรงงานที่ผลิตหน้ากากอนามัย จำนวนทั้งสิ้น 11 โรงงาน มีกำลังการผลิตโรงงานละ 1.2 ล้านชิ้น ซึ่งรัฐบาลสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปควบคุมดูแลการจำหน่ายหน้ากากอนามัยของแต่ละโรงงานแล้ว เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสกักตุนหน้ากากอนามัย แต่จากการตรวจสอบพบว่า หน้ากากอนามัย ก็ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้าขึ้นใช้เอง ถือเป็นอีกช่องทางในการป้องกันปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย ภาครัฐจึงเตรียมเดินหน้าโครงการผลิตหน้ากากอนามัย โดยจะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ผลิตหน้ากากอนามัยแจกจ่ายให้กับประชาชนในแต่ละพื้นที่ ซึ่งภาครัฐจะเป็นผู้สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการจัดทำ
ส่วนความคืบหน้าในการเตรียมรับมือแรงงานชาวไทย ที่เดินทางกลับประเทศจากพื้นที่เสี่ยง ได้มีการหารือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยทางกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน ได้ชี้แจงว่า แรงงานเหล่านี้บางส่วนได้ทยอยเดินทางกลับมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ซึ่งเกินกว่า 14 วันแล้ว และยังไม่มีรายงานการป่วย ก็แสดงว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้ติดเชื้อ
อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทย อย่าได้รังเกียจแรงงานไทย เหล่านี้ เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน และที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ ก็ไม่ได้หมายความว่า ไปติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อโควิด-19 อย่าไปสันนิษฐานเอาเอง ซึ่งทางรัฐบาลก็มีมาตรการกำกับดูแลในเรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งถ้ากลุ่มนี้ผ่านการคัดกรอง 14 วัน ไม่แสดงอาการใดๆ ก็แสดงว่าไม่ได้มีเชื้อติดมา แต่ก็ฝากถึงพี่น้องประชาชนเรื่องการดูแลสุขภาพตนเองเป็นหลัก อย่าไปในแหล่งชุมชน หรืออย่าไปใกล้คนที่มีอาการไอจาม พยายามล้างมือบ่อยๆ ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โรคภัยต่างๆ ก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้ นายเทวัญฯ กล่าว
ทีมข่าว MC.news.com รายงาน