โคราชทะยานติดเชื้ออีก 209 ราย ตามคาดการณ์ หลัง พบคลัสเตอร์ โรงเรียนในหลายอำเภอติดเชื้อแบบลูกโซ่ จากครูสู่นักเรียน จากนักเรียนสู่ผู้ปกครอง ฝ่ายปกครอง “ภูมิสิทธิ์”รอง ผวจ.โคราช ทำหนังสือแจ้งทุกอำเภอให้ดำเนินการตามมาตรการเข้มข้น เร่งฉีดวัคซีน”ไฟเซอร์”ให้นักเรียนอย่างเร่งด่วน กลุ่มศิลปินลิเกโคราชกว่า 200 คณะ วอน”วิเชียร”ผวจ.โคราชให้ช่วยโดยด่วน!!!
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์โควิด-19 จ.นครราชสีมาวันที่ 3 ก.พ. 65 ติดเชื้อในพื้นที่ชุมชนรายใหม่ 209 ราย เป็นการติดเชื้อนอกจังหวัด 4 ราย โดยได้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (กทม.) 2 ราย พื้นที่เสี่ยง (มหาสารคาม) 1 ราย พื้นที่เสี่ยง (สมุทปราการ) 1 ราย และมีผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด 205 ราย ทำให้ จ.นครราชสีมามีผู้ ติดเชื้อสะสมรวม 38,917 ราย วันนี้ทีมแพทย์รักษาหาย 70 ราย ยังรักษาอยู่ 2,118 ราย รวมรักษาหายสะสม 36,501 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 298 ราย วันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต
ในรายงานได้แบ่งการติดเชื้อโควิดตามรายอำเภอได้แก่ อ.เมือง 45 ราย,อ.สีคิ้ว 38 ราย,อ.ด่านขุนทด 23 ราย,อ.ปากช่อง 20 ราย,อ.ปักธงชัย 13 ราย,อ.ขามทะเลสอ 10 ราย,อ.โนนสูง 10 ราย,อ.ครบุรี 9 ราย,อ.เทพารักษ์ 8 ราย,อ.หนองบุญมาก 6 ราย,อ.วังน้ำเขียว 4 ราย,อ.คง 4 ราย,อ.โนนไทย 4 ราย,อ.ประทาย 4 ราย,อ.เฉลิมพระเกียรติ 3 ราย,อ.พระทองคำ 3 ราย,อ.สูงเนิน 2 ราย,อ.พิมาย 1 ราย,อ.ชุมพวง 1 ราย และ อ.สีดา 1 ราย
หลังเกิดการระบาดหนักในโรงเรียนหลายแห่ง ทางสาธารณสุขจังหวัด และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ได้มีการจุดฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับกลุ่มนักเรียน ตามโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล รวมทั้งห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลโคราช โยช่วงเช้าวันที่ 3 ก.พ. 65 มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จาก 25 แห่ง ใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา มาเข้าคิวรอฉีดวัคซีนสำหรับกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี เป็นวันแรก โดยมีผู้ปกครอง เข้ามาดูแล และให้กำลังใจบุตร-หลาน
ก่อนการแถลงข่าวเมื่อวันวานนี้ นางสาวศุภารมย์ เย็นรัมย์ (ข้าวเหนียว)ตัวแทนกลุ่มศิลปินลิเกจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ผ่านทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยมีนายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดและนายแพทย์สมบัติ วัฒนะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดรับมอบหนังสือ ในการขอความเป็นธรรมให้แก่กลุ่มศิลปินลิเกได้รับความเดือดร้อนไม่มีรายได้เลี้ยงชีพ เนื่องจากทางราชการสั่งห้ามแสดงหรือยกเลิกงาน ซึ่งเป็นคำสั่งที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย และรัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจเดินหน้า
“ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเดิมทีมีคณะลิเก กว่า 200 คณะ หลังจากสถานการณืเศรษฐกิจและสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้คณะลิเกได้ปิดตัวลงไป ขณะนี้เหลือเพียง ประมาณ 30 คณะ โดยตลอดระยะเวลา 2 ปีเต็มของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อศิลปินนักแสดงลิเกได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคโควิด และไม่เคยออกมารวมตัวเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหา ทุกคนต่างพยายามดิ้นรน ไปประกอบอาชีพอื่นในช่วงที่ห้ามแสดงลิเก บางครั้งจัดแสดงผ่านไลฟ์สดทางโซเชียลเพื่อหาพวงมาลัยออนไลน์ แต่รายได้ก็ไม่ดีขึ้น เมื่อสถานการณ์โควิดเริ่มดีขึ้นตามลำดับ รัฐบาลมีการปรับมาตรการผ่อนคลาย การปรับระดับพื้นที่ มีการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าโดยไม่ต้องกักตัว การอนุญาตให้นั่งดื่มในร้านอาหาร มีการเข้าชมกีฬา ตลอดจนการจัดงานหรือกิจกรรมต่างๆของภาครัฐ เช่น เคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2565 แต่ปรากฏว่า คณะลิเกในจังหวัดนครราชสีมา กลับไม่ได้รับการผ่อนปรนหรือปลดล็อกตามไปด้วย”
สำหรับหนังสือร้องเรียนได้อ้างถีงคำสั่ง ศบค. ได้มีมติเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมเดินหน้า โดยอนุญาตให้พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) สามารถรวมกลุ่มจัดกิจกรรมได้ไม่เกิน 500 คน และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) เฉพาะอำเภอเมืองนครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.โชคชัย อ.ปากช่อง อ.พิมาย อ.วังน้ำเขียว และ อ.สีคิ้ว สามารถรวมกลุ่มจัดกิจกรรมได้ตามความเหมาะสม ดังนั้น ทางกลุ่มนักแสดงลิเกจังหวัดนครราชสีมา ขอความอนุเคราะห์และเห็นใจกลุ่มศิลปินเหล่านี้ จึงอยากเสนอข้อเรียกร้องให้รัฐบาล และผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เร่งช่วยเหลือในเบื้องต้นดังนี้
1.ขอให้ทางจังหวัดนครราชสีมา ผ่อนปรนให้เปิดการแสดงลิเกทุกคณะโดยทั่วไปได้เร็วที่สุด นอกจากช่วยสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าแล้ว ยังสืบสานวัฒนธรรมไทย ต่อลมหายใจศิลปะพื้นบ้านที่กำลังจะใกล้ตายอีกด้วย เนื่องจากลิเกสามารถทำการแสดงได้จนถึงช่วงเดือนเมษายน และจะหยุดพักในช่วงหน้าฝน ไม่สามารถแสดงในสถานที่เปิดโล่งได้ หากไม่อนุญาตให้จัดการแสดงในช่วง 3 เดือนนี้ก็จะทำให้สูญเสียรายได้ยาวต่อเนื่องถึงปลายปี โดยมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ดังที่ได้กล่าวไว้ 2.ขอให้มีนโยบายชัดเจน โดยยึดตามมาตรการ ศบค.ที่อนุญาตให้พื้นที่สีส้มสามารถรวมกลุ่มจัดกิจกรรมได้ไม่เกิน 500 คน และพื้นที่สีฟ้า รวมกลุ่มจัดกิจกรรมได้ตามความเหมาะสม ซึ่งเป็นการเยียวยาประชาชนโดยไม่ต้องใช้งบประมาณภาครัฐแต่อย่างใด 3.กำชับขอให้ส่วนราชการต่างๆโดยเฉพาะทางอำเภอ ได้รับทราบถึงปัญหาและข้อเรียกร้องของกลุ่มนักแสดงลิเก เพื่อไม่ให้เกิดการสั่งห้ามหรือยกเลิกกะทันหัน พร้อมกับเปิดช่องทางรับแจ้งเรื่องร้องเรียนกรณีนี้โดยเฉพาะ
.ทีมข่าว MC.news.com รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา