การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศไทยก้าวเข้าสู่ wave 5 อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้สายพันธุ์หลักในการแพร่ระบาดคือ โอมิครอน ที่มีอานุภาพในการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลต้า ทำให้กระทรวงสาธารณยกระดับการป้องกันการระบาดเป็นระดับ 4 คือเตรียมสั่งปิดสถานที่เสี่ยง งด เลื่อน การจัดกิจกรรมที่มีจำนวนคนเกินกว่า 100 คนขึ้นไป และสาเหตุหลักในการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วก็คือ แหล่งสถานบันเทิง หรือร้านอาหารกึ่ง ผับ บาร์ โต๊ะบอลเถื่อน บาคาร่า ที่เปิดกันอย่างเต็มพิกัดแข่งกับ 7-11 โดยเฉพาะในเขต อ.เมือง โคราช ไร้มาตรการรักษาระยะห่าง ปล่อยปละละเลย ทำให้เกิดการมั่วสุมทั้งดื่มเหล้า เต้น กันอย่างสนุนกสนานและที่ไร้ศีลธรรมที่สุดคือ ปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการไหนจะสถานบันเทิงเถื่อนที่เปิด แบบไร้ใบอนุญาตอีกมากมายในเขตพื้นที่ อ.เมืองโคราช
สังเกตได้จากไทม์ไลน์ของคนที่ติดส่วนมากเป็นนักเรียนมัธยมปลายซะส่วนมาก แสดงให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวของผู้ประกอบการ ไร้สิ้นซึ่งจรรยาบรรณในสายอาชีพ ที่สำคัญคือ เจ้าหน้าที่แบะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำไมถึงปล่อยให้เปิดกันอย่างโจ่งครึ่งไร้การตรวจสอบดูแล ทั้ง ๆ ที่สถานที่เหล่านี้ผิดกฎหมาย ทั้งโต๊ะบอล บาคาร่า แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตำรวจโคราชกลับนิ่งเฉยไม่ดำเนินการตรวจสอบปล่อยให้จนเกิดเป็นแหล่งคลัสเตอร์ใหญ่ สร้างความช้ำใจประชาชนอย่างมากแบบนี้แสดงว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตำรวจโคราชหูหนวกตาบอด หรือมีอะไรมาบดบังทำให้มองไม่เห็นพฤติกรรมของผู้ประกอบการที่ปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ แม้กระทั่งมาตรการเว้นระยะห่างก็ไม่มี
เมื่อเกิดคลัสเตอร์ใหญ่แหล่งแพร่ระบาดหลัก ๆ ก็คือสถานบันเทิง การแพร่กระจายอย่างรวดเร็วทำให้ โคราชต้องกลับมาเปิด โรงพยาบาลสนามอีกครั้งในวันที่ 7 มกราคม พร้อมเปิดศูนย์พักคอย ที่สนามกีฬาค่ายสุรนารี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับจำนวนผู้ที่ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องกลับมาเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมงอีกครั้งถือว่าระลอกนี้เป็นการแพร่ระบาดที่หนักหน่วงอีกระลอกเพราะกสายพันธุ์โอมิครอนเป็นสายพันธุ์ที่มีแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และติดง่ายกว่าเดิม
นั่นแสดงให้เห็นว่าเราควรแก้ไขปัญหาที่ขุดเริ่มต้นคือแหล่งแพร่กระจาย อย่างเช่น สถานบันเทิง ควรมีมาตรการที่เข้มข้น เจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ควรใส่เกียร์ว่าง ควรทำงานแบบโปร่งใส ใส่ใจประชาชน เร่งดำเนินการตรวจสอบสถานบันเทิงในพื้นที่ ควบคุมเข้ม จัดระเบียบให้อยู่ในกรอบ ไม่ใช่ปล่อยละเลย ปล่อยให้ผู้ประกอบการทำตามอำเภอใจ ถ้ายังนิ่งเฉยแสดงว่าเจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกรงใจผู้ประกอบการมากกว่าชีวิตประชาชน
รายงานจากศูนย์โควิด จ.นครราชสีมา แจ้งว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ วันที่ 6 ม.ค.65 ตรวจพบการติดเชื้อสูงขึ้นถึง 119 ราย เป็นการติดเชื้อนอกจังหวัด 27 ราย ติดเชื้อในจังหวัด 92 ราย ทำให้ จ.นครราชสีมา มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 34,592 ราย ยังรักษาอยู่ 637 ราย รักษาหายสะสม 33,673 ราย เสียชีวิตสะสม 282 ราย โดยติดเชื้อโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอน สะสมรวม 17 ราย แยกผูป่วยรายอำเภอปรากฏว่า อ.เมืองติดเชื้อสูงสุด 55 ราย ปากช่อง 14 ราย-ปักธงชัย 9 ราย-โนนสูง 7 ราย-สูงเนิน 7 ราย-เสิงสาง 5 ราย-คง 5 ราย-เทพารักษ์ 4 ราย-ครบุรี 3 ราย-พิมาย 2 ราย-เฉลิมพระเกียรติ 2 ราย-สีคิ้ว 2 ราย-บัวใหญ่ 2 ราย-โชคชัย 1 ราย-จักราช 1 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อนอกเขตจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ (63ประเทศเสี่ยง) 3 ราย-กลับจากต่างประเทศ (เยอรมัน) 1 ราย-จากพื้นที่เสี่ยง (กทม.) 6 ราย-พื้นที่เสี่ยง (ขอนแก่น) 1 ราย-พื้นที่เสี่ยง (ชลบุรี) 1 ราย-พื้นที่เสี่ยง (พัทยา) 8 ราย-พื้นที่เสี่ยง (ระยอง) 4 ราย-พื้นที่เสี่ยง (สมุทรปราการ) 2 ราย-พื้นที่เสี่ยง (หัวหิน) 1 ราย
ทีมข่าว MC.news.com รายงานจกจังหวัดนครราชสีมา