พื้นที่โฆษณา

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยสหรัฐอเมริกา บริจาควัคซีน Moderna 1 ล้านโดส ให้รัฐบาลไทย ภายใต้สัญญารัฐต่อรัฐ  ถึงวันนี้คนไทยฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้วจำนวนกว่า 44 ล้านคน ประเทศสิงคโปร์ ลงโทษผู้ไม่ฉีดวัคซีนด้วยการเตรียมยกเลิกรักษาฟรี ผู้ป่วยโควิดที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน ตั้งแต่ 8 ธ.ค. 64 เป็นต้นไป !!ส่วนยอดติดเชื้อวันนี้  7,496 ราย หายป่วย  7,452 รายเสียชีวิต 57ราย!!  

พื้นที่โฆษณา

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19 วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 7,496 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 6,942 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 302 ราย  ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 240 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 12 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,968,106 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 7,452 ราย แพทย์รักษาหายป่วยสะสม 1,853,210 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 96,450 ราย  มีผู้เสียชีวิต 57 ราย

พื้นที่โฆษณา

ส่วนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวาน วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 251,556,304 ราย มีอาการรุนแรง 76,520 ราย แพทย์รักษาหายแล้ว 227,755,227 ราย มีผู้เสียชีวิต 5,079,766 ราย  จัด อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด  1. สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 47,536,536 ราย  2. อินเดีย มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 34,386,786 ราย  3. บราซิล  มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 21,897,025 ราย  4. สหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 9,366,676 ราย  5. รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 8,873,655 ราย  สำหรับประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อ อยู่ในอันดับที่ 24 จำนวน 1,989,473 ราย

พื้นที่โฆษณา

สำหรับประเทศไทยรายงานจากศูนย์ข้อมูลCOVID19 ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ MOPH-IC มีจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 9 พ.ย. 2564)รวม 81,761,062 โดส ใน 77 จังหวัด  โดยภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 มียอดฉีดทั่วประเทศ 792,255 โดส  เป็นการฉีดเข็มที่ 1จำนวน  239,164 ราย   ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 520,475 ราย  ฉีดเข็มที่ 3 จำนวน 32,616 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 44,355,673 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 34,760,830 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 2,644,559 ราย

พื้นที่โฆษณา

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทย ได้รับแจ้งข่าวการบริจาควัคซีนโมเดอร์นาจากรัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านหน่วยงานกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีหลักการว่า วัคซีนที่บริจาคให้รัฐบาลไทย ต้องอยู่ภายใต้สัญญารัฐต่อรัฐ คือ จะเป็นการลงนามในสัญญาระหว่าง US Department of Health and Human Services กับกรมควบคุมโรค อีกทั้งต้องมีการลงนามสัญญากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนด้วย โดยมีสาระสำคัญ คือ   ห้ามนำวัคซีนบริจาคไปแสวงหาผลประโยชน์ เช่น ต้องไม่มีการนำไปจำหน่ายต่อ  นอกจากนี้ ถ้าหากวัคซีนบริจาคก่อให้เกิดผลเสียต่อผู้รับวัคซีน ภาครัฐจะต้องให้การดูแลรักษาโดยไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบ รวมถึงการชดเชยเยียวยาตามระเบียบที่กำหนด

การบริจาควัคซีนจากประเทศใดให้กับอีกประเทศหนึ่ง ไม่ดำเนินการผ่านเอกชน เพราะไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ทั้งยังไม่สามารถกำกับติดตามและรับผิดชอบผลกระทบได้อย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติสากลเกี่ยวกับวัคซีนบริจาคที่หน่วยงานสาธารณสุขประเทศต่างๆ ทั่วโลกยึดถือปฏิบัติ นับตั้งแต่เริ่มมีวัคซีนโควิด 19 การรับวัคซีนบริจาคจึงเป็นภารกิจของหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ในการปกป้องสุขภาพอนามัยของประชาชน ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายโดยตรง

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 เผยถึงมาตรการและหลักเกณฑ์การจัดงานเทศกาลลอยกระทง ▪️ การลอยกระทงตามประเพณีของบุคคล ครอบครัว หรือการจัดงานขนาดเล็ก สามารถดำเนินการได้ โดยยึดถือมาตรการ Universal Prevention หรือ DMHTT ▪️ การจัดเทศกาลขนาดใหญ่ (Event) ได้แก่ งานลอยกระทงที่จัดโดย จ.สุโขทัย และ กทม. เป็นตัน ให้ขอความเห็นชอบจาก คกก.โรคติดต่อจังหวัด/กทม. และ ให้ คกก.โรคติดต่อจังหวัด/กทม. กำกับดูแลการจัดงานในภาพรวมในพื้นที่ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ▪️ ให้ยึดถือแนวทางและมาตรการที่รณรงค์ ที่ วธ. สธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้หารือร่วมกัน แล้วได้กำหนดแนวปฏิบัตินำเสนอ ศบค. เห็นชอบแล้ว เมื่อ 29 ต.ค. 64 (รายละอียด : สายด่วนวัฒนธรรม 1765 , Facebook :กองเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม)
▪️ หลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น สามารถใช้ได้ทุกจังหวัด (ทุกระดับพื้นที่สถานการณ์)

มีรายงกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการตรวจและการรักษาโรคโควิด-19 ไม่ว่าผู้ป่วยจะเป็นชาวสิงคโปร์ หรือชาวต่างชาติซึ่งมีถิ่นพำนักถาวรอยู่ในสิงคโปร์ เพื่อบรรเทาความไม่แน่นอนซึ่งเกิดขึ้นจากโรคระบาดใหม่ ปัจจุบันการฉีดวัดซีนโควิด-19 ในสิงคโปร์ครอบคลุมประชากรแล้ว 85% แต่การฉีดวัคชีนครบแล้วก็ยังมีโอกาสติดโรคโควิด-19 ได้ ดังนั้น หากประชาชนกลุ่มนี้ต้องเข้ารับการตรวจและการรักษาตัวจากโรคดังกล่าว ภาครัฐจะยังคงเป็นผู้ดูแลค่ใช้จ่ายให้

อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนจำนวนหนึ่งซึ่ง “สมัครใจปฏิเสธ” เข้ารับการฉีดวัดซีน ด้วยเหตุผลที่ไม่ได้กี่ยวข้องกับการแพทย์ นับตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 64 เป็นต้นไป หากป่วยด้วยโรคโควิด-19 ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลแบบใดก็ตาม บุคคลนั้นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางการแพทย์เองทั้งหมด ยกเว้นผู้ป่วยซึ่งผลการพิสูจน์ทางการแพทย์ยืนยันว่าไม่สามารถรับวัคซีนได้และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

#ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูล COVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ 

สำนักข่าว MC.news.com รายงาน