พื้นที่โฆษณา

ด่วน!สหราชอาณาจักร ปรับลดประเทศไทยออกจาก “บัญชีสีแดง” ไม้มีความเสี่ยงสูงจากเชื้อโควิด โดยปรับลดจาก 54 ประเทศ เหลือ 7 ประเทศ ซึ่งไทยรวมอยู่ด้วย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฯ ได้ขอบคุณประชาชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ได้ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล จนทำให้เกิดความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติต่อประชาคมโลก ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากความมุ่งมั่นของรัฐบาล และประชาชนที่ร่วมกันวางมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ ขณะที่ กทม.รุกคืบเคาะประตูบ้านลุยฉีดวัคซีนให้คนป่วยติดเตียง!!ส่วนยอดการติดเชื้อวันนี้มีจำนวนลดลงอยู่ที่ 10,817 ราย เสียชีวิต   84 ราย หายป่วย 9,981 ราย!!

พื้นที่โฆษณา

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม 2564  มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 10,817 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 10,055 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 649 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 50 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 63 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,682,021 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 9,981 ราย หายป่วยสะสม 1,554,887 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 110,880 ราย เสียชีวิต 84 ราย

พื้นที่โฆษณา

ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวานวันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. 🕙มียอดผู้ติดเชื้อรวม 237,995,075 ราย มีอาการรุนแรง 83,374 ราย แพทย์รักษาหายแล้ว 215,132,266 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,857,370 ราย จัดอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด   1. สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อ จำนวน 45,135,620 ราย  2. อินเดีย ติดเชื้อ จำนวน 33,934,335 ราย  3. บราซิล ติดเชื้อ จำนวน 21,550,730 ราย   4. สหราชอาณาจักร ติดเชื้อ จำนวน 8,081,300 ราย5. รัสเซีย ติดเชื้อ จำนวน 7,717,356 ราย  สำหรับประเทศไทย ติดเชื้ออยู่ในอันดับที่ 25 จำนวน 1,700,067 ราย

พื้นที่โฆษณา

สำหรับประเทศไทยรายงานจากศูนย์ข้อมูลCOVID19 ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ MOPH-IC มีจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 8 ต.ค. 2564) รวมยอดทั้งสิ้น  59,308,772 โดส ใน 77 จังหวัด  โดยภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 8 ตุลาคม 2564  สามารถทำยอดฉีดทั่วประเทศสูงถึง 1,010,072 โดส   เป็นการฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 480,064 ราย  ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 489,043 ราย   ฉีดเข็มที่ 3 จำนวน 40,965 ราย โดยที่จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 34,668,552 รายจำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 22,949,256 รายจำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 1,690,964 ราย

พื้นที่โฆษณา

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย สหราชอาณาจักร ได้ปรับหรือลดจำนวนประเทศหรือดินแดนที่อยู่ใน “บัญชีสีแดง” ซึ่งหมายถึงประเทศและดินแดนที่มีความเสี่ยงสูง ในการเดินทางไปเยือน โดยปรับลดลงจาก 54 ประเทศ เหลือ 7 ประเทศ โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกปลดออกจากบัญชีแดง จะเริ่มมีผลตั้งแต่ เวลา 04.00 น. ของวันที่ 11 ต.ค.64 ตามเวลาสหราชอาณาจักร  ทั้งนี้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ขอบคุณประชาชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกหน่วยงานที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามการดำเนินนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างดี และเชื่อมั่นว่าเป็นความสำเร็จจากความมุ่งมั่นของรัฐบาลต่อมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคที่ได้สร้างความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติ

พื้นที่โฆษณา

กระทรวงสาธารณสุข เผย วัคซีน Pfizer ที่ซื้อ 30 ล้านโดส จะทยอยส่งครั้งละ 1.5 – 2ล้านโดส ล็อตแรกถึงเมื่อ 29 กันยายน 64 ได้นำไปฉีดให้นักเรียนแล้ว และสัปดาห์หน้าจะมาอีก 1.5 ล้านโดส ยืนยันมีเพียงพอสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่าที่ผู้ปกครองแจ้งความประสงค์ไว้ สำหรับพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส สงขลา ปัตตานี และยะลา ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 20% ของผู้ป่วยทั้งหมด ขณะนี้ฉีดครอบคลุม 30-40 % และได้จัดส่งวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อระดมฉีดในพื้นที่ระบาดในสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกันได้เร่งเฝ้าระวัง สอบสวน ควบคุมโรค แยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนและนำเข้าระบบรักษา กักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ส่วนกลุ่มเสี่ยง 608 ฉีดได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ เช่น สงขลา 65% ยะลา 56% นราธิวาส 50% ปัตตานี 48% และย้ำว่าการฉีดวัคซีนจะช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้

พื้นที่โฆษณา

มีรายงานว่ากรุงเทพมหานครได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง จากข้อมูลการให้บริการวัคซีนกลุ่มดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. – 5 ต.ค. 64 ปรากฏว่า มีผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงลงทะเบียนขอรับวัคซีน จำนวน 8,762 ราย เจ้าหน้าที่ได้ประสานยืนยันการรับวัคซีนครบทุกรายแล้ว แต่พบว่ามีผู้เข้าเกณฑ์ได้รับวัคซีน จำนวน 4,796 ราย และเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว 3,918 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างรอเข้ารับวัคซีน

ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่ได้รับวัคซีนในพื้นที่กรุงเทพฯ จากหน่วยฉีดทุกสังกัด ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 7 ต.ค. 64 ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้อายุ 60 ปีขึ้นไป (ข้อมูล สปสช.) จำนวน 1,532,226 คน ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 1,131,207 คน คิดเป็นร้อยละ 73.82 ทั้งนี้ขอให้บ้านที่มีผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนประสานขอรับวัคซีนโควิด ได้ที่ ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือประสานผ่านสำนักงานเขตพื้นที่ได้อีกช่องทางหนึ่งเพื่อนัดหมายรับวัคซีนต่อไป

#ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูลCOVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ 

สำนักข่าว MC.news.com รายงาน