พื้นที่โฆษณา

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2564 มีผู้ติดเชื้อรวมทั้งสิ้น 14,029 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 12,224 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 1,525 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 276 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 4 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,353,310 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) แพทย์รักษาหายป่วยกลับบ้าน 15,742 ราย หายป่วยสะสม 1,204,428 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)ผู้ป่วยกำลังรักษา 135,966 ราย เสียชีวิต 180 ราย

พื้นที่โฆษณา

ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวานนี้ วันเสาร์ที่ 11 กันยายน 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 224,647,087 ราย มีอาการรุนแรง 103,613 ราย แพทย์รักษาหายแล้ว 201,185,534 ราย เสียชีวิต 4,630,843 ราย จัดอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อ จำนวน 41,741,693 ราย 2. อินเดีย ติดเชื้อ จำนวน 33,200,877 ราย 3. บราซิล ติดเชื้อจำนวน 20,974,850 ราย 4. สหราชอาณาจักรติดเชื้อ จำนวน 7,168,806 ราย5. รัสเซีย ติดเชื้อจำนวน 7,102,625 ราย สำหรับประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 29 ที่มีติเชื้อจำนวน 1,368,144 ราย

พื้นที่โฆษณา

มีรายงานจาก สนข.CGTN แจ้งว่าเมื่อ 9 ก.ย.64  โรงงานผลิตวัคซีนในมณฑลยูนนานของจีนที่มีกำลังผลิตวัคซีนได้ 200 ล้านโดสต่อปี จะผลิตวัคซีน mRNA-ARCoVax ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมระหว่างกองทัพจีน กับ บจ.Suzhou Abogen Biosciences และ Yunnan Walvax Biotechnology โดยใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับวัคซีน Pfizer และ Moderna ซึ่งจุดเด่นของวัคซีน ARCoVax คือสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หรืออุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานได้ ขณะที่ วัคซีน Pfizer และ Moderna จะต้องเก็บในอุณหภูมิมาตรฐานที่ -20 องศาเซลเซียส ซึ่งทำให้ต้นทุนการจัดเก็บและการขนส่งของวัคซีน mRNA-ARCoVax ลดน้อยลงจีนจะเริ่มผลิตวัคซีน mRNA ในลักษณะอุตสาหกรรมตั้งแต่ ต.ค.64

พื้นที่โฆษณา

สำหรับการฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติในประเทศไทย ขณะนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 รายงานว่า จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 10 ก.ย. 2564)มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 39,631,862 โดส ใน 77 จังหวัด📄 ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 10 กันยายน 2564 💉ยอดฉีดทั่วประเทศ 758,503 โดส ฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 323,285 ราย ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 432,647 ราย ฉีดเข็มที่ 3จำนวน 2,571 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม จำนวน26,954,546 ราย(จำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด)จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม จำนวน 12,063,643 ราย(จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์) จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม จำนวน 613,673 ราย

พื้นที่โฆษณา

ศูนย์ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติมีรายงานจัดเตรียมแผนฉีดวัคซีน 24 ล้านโดส ให้กับประชาชนคนไทยทั้งหมดในระหว่างวันที่ 27 ก.ย. – 31 ต.ค. 64 จำนวน 24ล้านโดส โดยแบ่งเป็น 5กลุ่ม โดยกลุ่มแรกได้แก่  กลุ่มประชาชนชายอายุตั้งแต่18ขึ้นไป 70% จำนวน 16.8ล้านโดส เป็นสูตรวัคซีนชิโนแวค>แอสตราเซเนก้า >ไฟเซอร์ เช็มแรกและเข็มสอง  กลุ่มที่ 2 เป็นนักเรียนอายุ12-17ปีทั่วประเทศ  20% จำนวน 4.8ล้านโดส เป็นสูตรวัคซีนไฟเซอร์>ไฟเซอร์ กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่ม แรกงานในระบบประกันสังคม ทั่วประเทศจำนวน 3% ใช้วัคซีน 8 แสนโดส เป็นสูตรวัคซีน ชืโนแวค>แอสตราเซเนกา

พื้นที่โฆษณา

กลุ่มที่ 4 หน่วยงานควบคุมเช่นเรือนจำ ทั่วประเทศจำนวน 5% ใช้วัคซีน 1.1ล้านโดส จะเป็นสูตร ชิโนแวค > แอสตร้าเซเนก้า และสุดท้ายเป็นกลุ่มผู้ต้องการฉีดกระตุ้นในเข็มที่ 3 ทั่วประเทศจำนวน 2% ใช้วัคซีน 5แสนโดส โดยจะเป็นสูตรวัคซีน ชิโนแวค>ชิโนแวค>แอสตร้าเซเนก้า  สำหรับการฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์”ให้กับนักเรียน ม.1-6 หรือ ปวช. ปวส. หรือ เทียบเท่า ต้องเป็นการฉีดในสถานศึกษา เช่น โรงเรียนรัฐบาลและเอกชน โรงเรียนอาชีวศึกษา โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนสอนศาสนา ฯลฯ และนักเรียนอายุเกิน 18 ปี อนุโลมให้ฉีดวัคซีนนี้ได้ ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องส่งใบยินยอมการฉีดวัคซีนแก่สถานศึกษา ที่นักเรียนนั้นๆเรียนอยู่

ราย#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูลCOVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ 

สำนักข่าว MC.news.com รายงาน