นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รอง ผวจ.โคราช ในฐานะประธานศูนย์ตอบโต้การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีรายงานการติดเชื้อในวันนี้(1 กย. 2564)ว่ามียอดรวม 180 ราย เสียชีวิต 3 ราย เป็นการติดเชื้อจากผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัดนครราชสีมาจำนวน 46 ราย และเป็นคนที่พำนักอาศัยอยู่ในพื้นที่ติดเชื้อในจังหวัดนครราชสีมาจำนวน 134 ราย
สำหรับยอดการติดเชื้อในต่างอำเภอปรากฏว่าอำเภอปากช่องยังเป็นอำเภอที่มีการติดเชื้อสูงสุด จำนวน 60 ราย รองลงมาคือเขตอำเภอเมืองที่มีประชากรหนาแน่น มีผู้ติดเชื้อจำนวน 25 ราย ถัดไปเป็นอำเภอโชคชัย 14 ราย-ชุมพวง 9 ราย-โนนสูง 9 ราย-ครบุรี 8 ราย-จักราช 6 ราย-ปักธงชัย 6 ราย-สีคิ้ว 6 ราย-พระทองคำ 5 ราย-ประทาย 4 ราย-ห้วยแถลง 4 ราย-ขามทะเลสอ 3 ราย-บัวใหญ่ 3 ราย-สูงเนิน 3 ราย-เสิงสาง 3 ราย-คง 2 ราย-เฉลิมพระเกียรติ 2 ราย-ด่านขุนทด 2 ราย-หนองบุญมาก 2 ราย-ขามสะแกแสง 1 ราย-โนนไทย 1 ราย-บัวลาย 1 ราย และอำเภอพิมาย 1 ราย
โดยสรุปความเสี่ยง/ประวัติสัมผัสติดเชื้อเดินทางเข้ามาในจังหวัดนครราชสีมาที่ตรวจพบมี เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (กทม.) 16 ราย-เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (กาญจนบุรี) 1 ราย-เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (ชลบุรี) 6 ราย-เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (นนทบุรี) 1 ราย-เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (ปราจีนบุรี) 1 ราย-เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (ระยอง) 6 ราย-เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (ลพบุรี) 2 ราย-เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (สมุทรปราการ) 2 ราย-ป่วยจาก กทม. กลับมารักษา 6 ราย-ป่วยจาก ชลบุรี กลับมารักษา 2 ราย-ป่วยจาก นครปฐม กลับมารักษา 1 ราย-ป่วยจาก ปทุมธานี กลับมารักษา 1 ราย-ป่วยจาก ระยอง กลับมารักษา 1 ราย-สัมผัสผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 134 ราย
ในที่ประชุมได้มีการประเมินผลงานของการป้องกันตามมาตรการต่างๆที่ทางราชการได้กำหนดตามที่มีผู้ติดเชื้อในสถานที่ต่างๆ หลายอำเภอ โดยมาตรการ “บับเบอร์แอนด์ซีล”ที่ได้ดำเนินการอยู่ตามโรงงานในที่ต่างๆ ที่หน่วยงานราชการและเอกชนได้ดำเนินการร่วมกันได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะที่อำเภอโชคชัย ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม ยกเว้นจะติดเชื้อที่เกิดจากกลุ่มเสี่ยงซึ่งมีการกักตัวตามโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆที่โรงงานได้เช่าไว้เท่านั้น รวมทั้งโรงงานอีก 30กว่าแห่ง ก็มีสถานการณ์ที่สามารถควบคุมการระบาดได้เช่นกัน
ส่วนคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อ 5 ชุมชน ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา มีรายงานว่าหนักที่สุดก็คือ ชุมชนทุ่งสว่างที่เป็นชุมชนแออัด จากการสำรวจมีทั้งหมด 35 หลังคาเรือน ตรวจพบว่ามีการติดเชื้อ 20 หลังคาเรือน พบผู้ติดเชื้อสะสมรวม 46 รายและตรวจสอบเชื้อเบื้องต้น พบติดเชื้ออีก 2 ราย โดยในขณะนี้ได้เทศบาลนครฯสั่งให้มีการปิดชุมชน ป้องกันการแพร่ระบาด โดยมีเจ้าหน้าที่ อปพร. คอยเฝ้าดูอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยนายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีฯได้นำสิ่งของเครื่องใช้รวมทั้งข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้ทุกวัน โดยกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดจะมีการกักตัวกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดให้ครบ 14 วันตามมาตรการ
นายศักดิ์สิทธิ์ รอง ผวจ.โคราชกล่าวว่า ตนยังมีความเป็นห่วงในเรื่องของการกักตัว เพราะบางแห่งบางพื้นที่ไม่การดำเนินการเข้มงวดตามมาตรการที่กำหนด มีการหย่อนยานในทางปฏิบัติ เพราะจากการสอบสวนโรคจากผู้ติดเชื้อพบว่า มีโรงงานบางแห่งมีพนักงานกักตัวไม่ครบ 14 วันแล้วกลับไปทำงาน ทำให้มีการติดเชื้อในโรงงานดังกล่าวซ้ำขึ้นมาอีก ซึ่งเรื่องนี้จะต้องให้มีการเข้มงวดอย่างเป็นพิเศษ สำหรับจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ มี 3,743บ้าน/ชุมชน และพบว่ามีจำนวนกว่า 500 หมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และในจำนวนนี้มีสถิติพบว่า ตั้งวันที่ 20สิงหาคมที่ผ่านมามีระบาดอย่างรุนแรงจำนวน 100 กว่าหมู่บ้าน จึงอยากให้ทุกฝ่ายได้เข้มงวดในมาตรการอย่างเป็นพิเศษ
ทีมข่าว MC.news.com รายงานจากจังหวัดนครราชสีมา