วันที่ 13 สิงหาคม 2563 ที่ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดนครราชสีมา นายปฐมฤกษ์ มณีเนตร ประธานชมรมพิทักษ์ ระบบคุณธรรม และ สิทธิครู จังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะครูโคราช-ชัยภูมิ  จำนวนกว่า 300 คน ประกอบไปด้วย ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมา ทั้ง 6 เขต และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 นครราชสีมา โรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัด  ซึ่งได้รับผลกระทบจากมติ ปปช ตั้งข้อกล่าวหาฐาน(ทุจริตสนามฟุตซล)เป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติอย่างใด ในตำแหน่งหน้าที่หรือใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิด ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติ พ.ร.บ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ. ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2  พ. ศ. 2554

ดร.ปิยะพัชร์ เดชจรรยา เลขาชมรมคนไม่ ทนต่อการทุจริต เปิดเผยว่า ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ชที่มีคำสั่งไม่เป็นธรรมกับครูและบุคลากรทางการศึกษา เราพร้อมต่อสู้และเคลื่อนไหวให้ถึงที่สุดบนพื้นฐานของสิทธิตามรัฐธรรมนูญและกรอบของกฎหมายโดบจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้ององค์กรต่างๆ ดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ ปปช.และ เรียกร้องกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความเป็นธรรมกับครูที่ถูกไล่ออก ขอยืนยันเราไม่ได้เรียกร้องเกินไป เราได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส เพราะการที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมืองนี้

ด้าน ดร.พจน์ เจริญพันธุ์เทียะ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดนครราชสีมา เขต 5 เปิดเผยว่า ตนเป็นคนหนึ่งได้รับการกล่าวโทษจาก ปปช. ในกรณีทุจริต ในสนามฟุตซอล ตนถูกกล่าวหาขณะยังดำรงตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์เขต 1 ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในเรื่องของการมาดำรงตำแหน่ง ผอ.สพฐ.เขต 5 หลังจากถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมนักการเมือง โดยกล่าวหาว่ามีการวางแผน เพื่อจัดหางบประมาณลงในพื้นที่ ทั้งๆที่ในขณะนั้นยังไม่ได้มาดำรงตำแหน่ง ขอกล่าวหาน่าจะไม่มีข้อมูล

“ตนมาจะลงตำแหน่งหลังจากที่มีการจัดสรรงบประมาณเสร็จสิ้นแล้ว อยากฝากถึงปปช. ให้ตรวจสอบข้อมูล ว่าผู้ดำรงตำแหน่งในช่วงเวลานั้นเป็นใคร ไม่ใช่ว่าให้ตนมาเป็นแพะรับบาป ไม่ใช่ว่าสุมกล่าวหาอันเป็นเท็จ อยากจะฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยตรวจสอบใหม่อีกครั้ง เพื่อที่จะได้ข้อมูลที่ชัดเจน โดยตนยินดีที่จะให้ข้อมูล ปปช.ใหม่ หลังจากถูกชี้มูลว่ากระทำความผิดต่อหน้าที่ ตั้งตนเองไม่ได้เป็นต้นเหตุในการจัดหางบประมาณ และไม่ได้เป็นตัวต้นเหตุในการจัดซื้อจัดจ้าง และถูกดำเนินการทางวินัยได้อย่างไร”ดร.พจน์ กล่าว

สำหรับรายชื่อที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดประกอบด้วยบุคคล 86 คน (ตำแหน่งที่ระบุไว้อยู่ในขณะเกิดเหตุ) และ 6 บริษัทเอกชนรับเหมาก่อสร้างมูลค่าต่อโรงเรียนตั้งแต่ 2.50 – 5.00 ล้านบาท 1.นายชินภัทร ภูมิรัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สพฐ. 2.นายปฐมฤกษ์ มณีเนตร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 (ผอ. สพป.นม เขต1) และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชานิยม 3.นายนิเวศน์ อุดมรัตน์ ผอ.สพป.นม.เขต  2 4.นายพิสิษฐ์ ชดกิ่ง ผอ.สพป.นม. เขต 3  5.นายสมภพ ศักดิษฐานนท์ ผอ.สพป.นม.เขต 4  6. นายพจน์ เจริญสันเทียะ ผอ.สพป.เขต 5  และผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 7.นายชนาธิป สำเริง ผอ.สพป.นม.เขต 7  8.นายชูเกียรติ วิเศษเสนา ผอ.สพม.เขต 31 และครูในภาคอีสานที่ไม่ส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีสนามฟุซอล ทาง ปปช ได้ชี้มูลความผิด ว่ามีการทุจริต ตามมาตรา 157 ถูกไล่ออกจากราชการไปแล้วจำนวน 5 ราย และที่เหลือ อีก 75 ราย ที่ต้องมีความผิดออกจากข้าราชการ และถูกดำเนินคดีทางอาญาต่อไป

ทีม่าว MC.news.com รายงาน