โคราชสร้างสถิติใหม่ ผ่านไป 8 วันตรวจไม่พบเชื้อ “โควิด-19”เพิ่ม คงมีผู้ติดเชื้ออยู่คงที่ 18 ราย รักษาหาย 5 ราย แต่ยังกลับบ้านไม่ได้ถูกกักตัวไว้อีก 14 วันตามมาตรการของแพทย์ผู้รักษา ส่วนผู้ป่วยอีก 13 ราย อาการดีวันดีคืน รอวันหาย “วิเชียร”ผวจ.โคราช ไม่ประมาท ยังคงเข้มมาตรการปิดร้านตัดผม-เสริมสวย รวมทั้งร้านขายเหล้าทั่วโคราชยืดยาวออกไปถึงสิ้นเดือน 30 เมษายน พร้อมเปิดสายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง โครงการห่วงใยชาวโคราชที่พบเห็นผู้คนที่ตกระกำลำบากยากแค้น ไม่มีข้าวจะกิน หรือ ยากลำบากในเรื่องอื่น ๆ  ให้โทรแจ้งเบาะแสมายังผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาจะได้รับการช่วยเหลือในทันที!!ในขณะที่หน่วยงานภาครัฐ “ระนองรักษ์”นายก อบจ.โคราช ผ่องถ่ายงบประมาณมาบริจาคเป็นสิ่งของและเม็ดเงิน 42 ล้าน ร่วมลงขันสู้โควิด-19

วันที่  15  เมษายน.2563  เวลา 13.30 น.  ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์  ( ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ไวรัส COVID -19  ) ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา  นาย  วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา   นาย อภินันท์ เผือกผ่อง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  นาย จรัสชัย  โชคเรืองสกุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  นายแพทย์ นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา  นายแพทย์  สุรัตน์  ส่งวิรุฬห์   รอง ผอ.โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา   ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID -19   ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีสื่อมวลชนหลายสำนักร่วมรับฟังเพื่อนำไปรายงานข่าว 

ก่อนการแถลงข่าว  ร้อยตรีหญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายก อบจ.นครราชสีมา  ได้มอบครุภัณฑ์เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ แก่ 5 หน่วยงาน จำนวนเงินทั้งสิ้นกว่า 42 ล้านบาท    ประกอบด้วย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา 12 รายการ จำนวนเงิน 20,114,000 บาท  โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา  10 รายการ จำนวนเงิน 13,605,000 บาท โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา 8 รายการ จำนวนเงิน -3,790,000 บาท โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 13 รายการ จำนวนเงิน 4,663,000 บาท และสนับสนุนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา  2 รายการ จำนวนเงิน 6,16,200 บาท  เพื่อนำไปดำเนินการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ยังมี  เซ็นทรัลโคราช  โดย นาย  เสฏฐวุฒิ. ทัตสุระผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา ได้มอบ Face Shield จำนวน 2,450 ชิ้น มอบให้จังหวัดนครราชสีมา เพื่อส่งต่อ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา  โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เพื่อร่วมเป็นกำลังใจให้ฮีโร่สู้ COVID-19  ท่ามกลางความชื่นชมของข้าราชการ และ สื่อมวลชนหลายสำนักที่ร่วมเป็นสักขีพยาน 

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.โคราช ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา แถลงว่า จังหวัดนครราชสีมา  มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อ(PUI) จำนวน   641 ราย (เก่า 632  +ใหม่ 9 ราย)  มีผู้ป่วยติดเชื้อโรค COVID-19 จำนวน 18  ราย  โดยวันนี้เป็นวันที่ 8 ที่มีการตรวจไม่พบเชื้อ จากการวิเคราะห์ทางวิชาการของคณะแพทย์ผู้รักษาพยาบาลยืนยันว่าโรคCOVID-19 ติดเชื้อจากภายนอกจังหวัดเพราะโดยสรุปมีจำนวนรวมกัน 14 ราย ติดเชื้อในจังหวัด 4 ราย ขณะนี้รักษาหาย 5 ราย  และได้เข้ากักตัวต่อ 14 วัน ที่ รร.ปัญจดารา 4 ราย คือรายที่ 4,3,5,15  กักตัวที่บ้าน 1 ราย คือเด็กอายุ 1 ขวบ 2 เดือน ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 13 ราย อยู่ที่ รพ.มหาราช 5, รพ.เทพรัตน์ 4, รพ.มทส. 2 และ รพ.โชคชัย 2 ราย

พื้นที่โฆษณา
พื้นที่โฆษณา

“ผู้ป่วยทั้งหมดมีอาการดีขึ้น 10 ราย  และอาการคงที่ 3 คน และจากการตรวจคัดกรองผู้ที่มารับการตรวจไม่พบเชื้อ จำนวน 619  ราย   (  เก่า606+ใหม่ 13ราย  ) มีส่วนหนึ่งที่ต้องรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ  จำนวน  4  ราย  ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่   ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรักษา 48 ชั่วโมงแล้วอาการไม่ดีขึ้น รองลงมาคือ  กลุ่มปอดอักเสบรุนแรงและกลุ่มปอดอักเสบที่มีประวัติไปในสถานที่เสี่ยง   มีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 1 ราย ที่มีภาวะปวดอักเสบ  ซึ่งได้เดินทางมาและอาศัยอยู่ในพื้นที่นานเกิน 14 วัน แต่ผลตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19”นายวิเชียร

กรณีการเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ(PN) มีจำนวน 278 ราย(ใหม่=2 ราย) ไม่ป่วย 278 ราย   กักตัวครบ 14 วัน จำนวน 263 ราย(ครบเพิ่ม 3ราย) ปัจจุบันติดตามต่อเนื่องจำนวน  15 ราย จากข้อมูลโปรแกรม COVID 19 KORAT ถึงวันนี้พบว่ามีผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดนครราชสีมา รายงานครบทั้ง 32 อำเภอ รวม 32,257 ราย(เก่า30,311+ใหม่ 1,946) เฝ้าระวังครบ 14 วันจำนวน 23,551ราย(เก่า 21,676+ใหม่ 1,875) ปัจจุบันติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับผู้เดินทางจากต่างประเทศ(ตั้งแต่ 31 มี.ค.2563-15 เม.ย 2563) รวมจำนวน 55 ราย(เก่า 46+ใหม่9) (เป็นอเมริกา 3, ญี่ปุ่น1, กัมพูชา 27, มาเลเซีย 18, ไอร์แลนด์ 1, สปป.ลาว 3, สวีเดน 1, สวิตเซอแลนด์ 1) ตรวจพบผู้สัมผัสเสี่ยง(High Risk)ใหม่จำนวน 9 ราย ได้ทำการส่งไปกักตัวที่ รพ. มทส. 4 ราย, และกักตนเองที่บ้าน 5 ราย โดยสรุปในขณะนี้มีผู้อยู่ในสถานที่กักตัวปัจจุบัน 69ราย(เก่า 63 +6) ได้แก่ที่ รพ.มทส. 41 (37+4) ราย , รร.ปัญจดารา 10 (6+4) ราย, รพ.พิมาย 2 และกักตนเองที่บ้าน 16 (10+5+1) ราย   โดยจังหวัดนครราชสีมาได้เตรียมสถานที่กักตัวไว้จำนวนถึง 260 ห้อง(มทส.60+รร.ปัญจดารา80+ศูนย์วิจัยฯ สูงเนิน 10  +ศูนย์ ศพน.30+รร.ศรีพัฒนา80)  ขณะนี้ใช้ไปแล้ว 51 ห้อง คงเหลือพร้อมรับ 209 ห้อง

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวต่อว่าจังหวัดนครราชสีมาได้มีมาตรการ การปิดร้านเสริมสวยยึดระยะเวลาออกไปจนถึง 30 เมษายน เหมือนเดิม เนื่องจากไม่อาจชะล่าใจได้ แม้จะไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นมาเป็นเวลา 8 วันแล้วก็ตาม  โดยเฉพาะพฤติกรรมคนเมืองมักจะละเลย จึงขอให้ร่วมมือประชาสัมพันธ์ให้มาก ในเรื่องของการสวมใส่หน้ากากผ้าหน้ากากอนามัย ขอให้เข้มแข็งต่อไป   นอกจากนั้นมาตรการห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ยังยืดไปถึง 30 เมษายน 2563 

“ในพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ และเมืองโคราช หากเราทำได้ตามมาตรการอย่างต่อเนื่องก็จะสามารถควบคุมโรคได้  สำหรับมาตรการการเยียวยาประชาชน จังหวัดนครราชสีมาได้เปิดสายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง ตามโครงการห่วงใยชาวโคราช  เพื่อให้ประชาชนที่พบเห็นผู้คนที่ตกระกำลำบากยากแค้น ไม่มีข้าวจะกิน หรือยากลำบากในเรื่องอื่น ๆ  ขอให้โทรแจ้งเบาะแสให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ทราบทันที เพื่อการหาทางให้การช่วยเหลือชาวโคราชที่ยากลำบาก จนกว่าชาวโคราชร่วมฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน”นายวิเชียรกล่าว 

นายวิเชียร กล่าวอีกว่า มีข้อน่าสังเกตคือ พบข้อมูลมีผู้สูงอายุป่วยด้วยปอดอักเสบเข้าเกณฑ์ต้องตรวจหาเชื้อ(PUI)รายใหม่ เข้ามาเรื่อย ๆเฉลี่ยสูงขึ้นถึงร้อยละ 44.44 ดังนั้นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา จึงขอเน้นย้ำว่า  ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2563 นี้  ขอให้ทุกคนในครอบครัวได้หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดญาติผู้ใหญ่โดยไม่จำเป็น  ทั้งนี้ควรสื่อสารให้ทุกคนในครอบครัวและสังคมได้เข้าใจว่าเป็นมาตรการทางสังคมที่สำคัญ   โดยเฉพาะจะช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยของผู้สูงอายุได้   ดังนั้นมาตรการทางสังคมจึงมีความสำคัญมาก โดยควรทิ้งระยะห่างกัน 2 เมตร ร่วมกับมาตรการ “ล้างมือทั้งวัน กินร้อน ช้อนฉัน ห่างกัน  2 เมตร และสวมหน้ากากผ้าทุกคนทั้งผู้ป่วยและไม่ป่วย 

“นอกจากนี้ มาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อโคราช”  ควรให้ความสำคัญกับอนามัยส่วนบุคคล ได้รับการชมเชยจากทั่วโลกว่าประเทศไทยเดินมาถูกทางและ อยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อโคราช ช่วยกันทำความสะอาดที่อยู่อาศัย เพื่อรณรงค์โรคไข้เลือดออก เนื่องจากมีสถานการณ์เกิดขึ้นแล้ว ควรให้ชุมชน อสม.  ประชาชนช่วยกันรณรงค์เฝ้าระวัง หากมีอาการสงสัย แจ้งโทรศัพท์ไปที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทันที”นายวิเชียรกล่าวในตอนท้าย

ทีมข่าว MC.news.com รายงาน