พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๓, พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค๓ (หัวหน้างานป้องกันปราบปรามยาเสพติด).พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ,พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ , พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค๓ (ผู้ช่วยงานป้องกันปราบปรามยาเสพติด) เปิดแถลงข่าวการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดทางสังคมออนไลน์ และจัดส่งโดยบริษัทรับส่งสินค้าและพัสดุ(ขอสงวนนาม) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ปวริศ บุญสุทธิผ บก.สส.ภ.๓, พร้อมทีมงานรอง ผบก.ทุกส่วนงาน เข้าประชุมหารือวางแผน การปราบปรามและจับกุม  โดยการนำของ พ.ต.ท.ไกรสร ศรีอำพร รอง ผกก.สืบสวน๒ บก.สส.ภ.๓, พ.ต.ต.ทวินันท์ นามวิเศษ สว.กก.สืบสวน๒ บก.สส.ภ.๓,ร.ต.อ.หญิงเพ็ญแข ชัยรัตกรกิจรอง สวกก.สืบสวน๒บก.สสภ.๓, ร.ต.อ.สมพร ทองประดับ รอง สว.กก.สืบสวน๒บก.สสภ.๓ บก.สส ๓ ได้ทำการสืบสวนและขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

จากการสอบสวนทราบว่าวายร้ายแก๊งนี้มีพฤติกรรมใช้ “สื่อสังคมออนไลน์” เป็นช่องทางติดต่อซื้อขายยาเสพติดกับลูกค้าและส่งยาเสพติดผ่านทางบริษัทรับสงพัสดุ ให้ลูกค้าในพื้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคอื่นๆในประเทศไทย จึงทำการสืบสวนขยายผล และจับกุมนายจักรกฤษ ไพคำนาม อายุ ๒๓ปี ผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับยาเสพติด จากนั้นทำการสืบสวนขยายผลล่อซื้อยาเสพติด จากนักค้ายา จนกระทั่งวันที่ ๒๔ก.ย.๒๕๖๒ตำรวจได้ทำการตรวจยึดกล่องพัสดุ ภายในบรรจุยาบ้าจำนวน ๒ ถุง(๔๐๓เม็ด) สารไอซ์ น้ำหนักประมาณ ๕ กรัม นำผู้ต้องหาพร้อมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนสภ.จอหอ จว.นครราชสีมา และได้ขออำนาจศาลออกหมายจับ (ผู้นำยาบมาส่งทางบริษัทรับส่งพัสดุ)

ต่อมาวันที่ ๑๖ ต.ค.๒๕๖๒ได้ทำการจับกุม นายอภิสิทธิ์ ศรีเพ็ชร อายุ ๒๕ ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.จอหอ(พื้นที่เกิดหตุ)และจับกุมนางชนิตา ทองเกิดอายุ๒๔ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน ๖,๐๐๐ เม็ด,สารไอซ์น้ำหนักประมาณ ๕๕ กรัม, รถยนต์จำนวน ๑ คัน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. (เกิดเหตุ พื้นที่สน.ลาดพร้าว) พร้อมอายัดเงินฝากจากบัญชีธนาคาร ที่ใช้รับโอนเงินค้ายาเสพติด จำนวน ๓๐๕,๐๐๐บาท ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ให้การว่าเป็นคนรับจ้างส่งยาเสพติด จากนักค้ายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยนำยาเสพติดบรรจุใส่กล่องพัสดุ ส่งให้ลูกค้าทั่วประเทศตามสั่งของผู้จ้าง เงินที่ได้จากค่าจ้างนำไปซื้อรถยนต์และใช้จ่ายส่วนตัว ตำรวจได้ทำการตรวจยึดของกลางประกอบไปด้วย ยาบ้า 6,304 เม็ด สารไอซ์ 60กรัม รถยนต์ 1คัน โทรศัพท์เคลื่อนที่ 1เครื่อง บัญชีเงินฝากในธนาคาร 305,000บาท

พลตำรวจโทพูลทรัพย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเคยถึงการกวาดล้างผู้กระทำความผิด กลุ่ม 4 กรณีที่รัฐเป็นผู้เสียหาย ระหว่างวันที่ 9-18 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยคดียาเสพติด 2,234 ราย จับอาวุธปืน พร้อมผู้ต้องหา 181 กระบอก คดีการพนัน 5563 ราย ผู้ต้องหา 924 ราย และสื่อลามก ต่างด้าวหลบเข้าเมือง คดีค้าประเวณี คดีทำผิดสถานบริการ และ คดีอื่นๆรวมทั้งสิ้นทุกคดี 3,143 ราย ผู้ต้องหา 3,546 คน นอกจากนี้ยังได้ฝากสื่อมวลชนเตือนไปยังประชาชนที่คิดหวังจะรวยกับการค้ายาเสพติด หรือมีส่วนช่วยเหลือ สนับสนุนการค้ายาเสพติด เช่นเปิดบัญชีฝากธนาคารเพื่อโอนเงินค้ายาบ้า เพราะจะถูกยึดพทรัพย์ตามกฎหมายฟอกเงินด้วย

ทีมข่าวอาชญากรรมMC.news.com.net รายนงาน