พื้นที่โฆษณา

ตั้งแต่วันนี้16 ต.ค. 64  ศบค. ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ กำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด  29 จังหวัด เป็น 23เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด   30 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 24 จังหวัด….กำหนด 4 เป้าหมายมาตรการรองรับการเปิดประเทศ  สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน, สร้างความมั่นคงด้านการสาธารณสุข,สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจเพื่อการฟื้นตัว และ เสริมสร้างสังคมและวัฒนธรรมให้ประชาชนกลับมามีวิถีชีวิตเหมือนเดิม…ขณะที่มาเลเซียเตรียมเปิดเกาะ”ลังกาวี”ให้บางประเทศเที่ยวได้ ฟิลิปปิน เตรียมแผนเปิดโรงหนัง และฟิตเนส เพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชน  !! เรื่องน่าเศร้า…..สุดๆในสัปดาห์นี้ ยังคงมียอดการติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 10,648 ราย เสียชีวิต   82  ราย หายป่วย 10,794 ราย!!

พื้นที่โฆษณา

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด –19วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564 ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนรวม 10,648 ราย  จำแนกเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 9,873 ราย  ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 650 ราย  ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 111 ราย  ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 14 ราย  ผู้ป่วยสะสม 1,743,975 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)  แพทย์รักษาหายป่วยกลับบ้าน 10,794 ราย  รวมหายป่วยสะสม 1,619,829 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน )  ผู้ป่วยกำลังรักษา 107,378 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิต 82 ราย

พื้นที่โฆษณา

ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกเมื่อวาน วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 240,383,902 ราย มีอาการรุนแรง 81,173 ราย  แพทย์รักษาหายแล้ว 217,610,544 ราย  มีเสียชีวิต 4,896,169 ราย จัดอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด   1. สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อ จำนวน 45,639,012 ราย   2. อินเดีย ติดเชื้อ จำนวน 34,036,684 ราย   3. บราซิล ติดเชื้อ จำนวน 21,612,237 ราย   4. สหราชอาณาจักรติดเชื้อ จำนวน 8,317,439 ราย   5. รัสเซีย ติดเชื้อ จำนวน 7,892,980 ราย  สำหรับประเทศไทย ติดเชื้อ อยู่ในอันดับที่ 24 จำนวน 1,762,190 ราย

พื้นที่โฆษณา

สำนักข่าวกรองแห่งชาติรายงานถึงสถานการณ์โควิดในต่างประเทศว่า ฟิลิปปินส์ เตรียมเปิดโรงภาพยนตร์ ฟิตเนสในกรุงมะนิลาเพื่อเพิ่มการจ้างงาน รัฐบาลเตรียมอนุญาตให้โรงหนังและฟิตเนสสามารถเปิดให้บริการได้อีกครั้ง หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID มีจำนวนลดลงเหลือประมาณ 9,000 คนต่อวัน หลังจากที่เมื่อ 11 ก.ย.64 มีจำนวนผู้ติดเชื้อถึง 26,303 คน รวมทั้งในกรุงมะนิลามีประชากรผู้ใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนเกือบร้อยละ 80 ทั้งนี้ การผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ในกรุงมะนิลาเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับไปทำงานได้อีกครั้ง

พื้นที่โฆษณา

สำหรับประเทศมาเลเซีย อยู่ระหว่างพิจารณาจะเปิดเกาะลังกาวีสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ กระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรมของมาเลเซีย เสนอให้เปิดเกาะลังกาวีรัฐเกดะห์ ให้นักท่องเที่ยวจากบางประเทศเดินทางเข้าได้ (ไม่ระบุรายละเอียด) ขณะที่รัฐบาลรัฐเกดะห์อยู่ระหว่างวางแผนเปิดศูนย์คัดกรอง COVIDใกล้สนามบินนานาชาติลังกาวี ซึ่งคาดว่าจะคัดกรองผู้เดินทางมาจากต่างประเทศได้ประมาณวันละ 300 คน ทั้งนี้ มาเลเซียเปิดเกาะลังกาวีให้นักท่องเที่ยวในประเทศตั้งแต่ 16 ก.ย.64 ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังเกาะลังกาวีประมาณ 90,000 คน ทำให้อัตราการเข้าพักโรงแรมระดับ 4-5 ดาว อยู่ที่ร้อยละ 45

สำหรับประเทศไทยรายงานจากศูนย์ข้อมูลCOVID19 ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ MOPH-IC มีจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 14 ต.ค. 2564) ยอดรวมทั้งหมด 63,614,352 โดส ใน 77 จังหวัด  โดยภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 14 ตุลาคม 2564 มียอดฉีดทั่วประเทศ 1,034,549 โดส  เป็นการฉีดเข็มที่ 1 จำนวน  481,973 ราย  ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 509,853 ราย ฉีดเข็มที่ 3 จำนวน  42,723 ราย  จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 36,721,779 ราย  จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 25,012,380 ราย  จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 1,880,193 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 กำหนด 4เป้าหมายรองรับเปิดประเทศ 1.สร้างความเชื่อมั่น โดยให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ หรือดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามหลักการแพทย์และสาธารณสุข  2.สร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้ประชาชนไทยมีภูมิคุ้มกันหมู่ และมีความปลอดภัยจากการเสียชีวิต เนื่องจากโควิด -19 รวมทั้งการรักษาระดับความมั่นคงด้านสาธารณสุขได้อย่างต่อเนื่อง  3.ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว โดยมีอัตราการเติบโตของ GDP เป็นไปตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล 4.เสริมสร้างสังคมและวัฒนธรรมเพื่อให้ ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมด้านสังคมและวัฒนธรรมตามเดิมได้ โดยยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรค DMHTTA ต่อไป

นอกจากนั้น ศบค. ได้ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 64  กำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด  29 จังหวัด เป็น 23 จังหวัด 1. พื้นที่ควบคุมสูงสุด  37 จังหวัด เป็น 30 จังหวัด พื้นที่ควบคุม  11 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด  โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด   23 จังหวัดได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครศรีธรรมราช นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา ระยอง ราชบุรี สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี

2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด   30 จังหวัด ได้แก่จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครราชสีมา นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง  พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี มหาสารคาม ระนอง ลพบุรี ศรีสะเกษ สตูล สระแก้ว สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์  อ่างทอง อุดรธานี อุบลราชธานี เพชรบูรณ์  และ 3. พื้นที่ควบคุม 24 จังหวัดได้แก่จังหวัด กระบี่ กำแพงเพชร นครพนม น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สุโขทัย หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อำนาจเจริญ

#ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 #ศูนย์ข้อมูลCOVID19 #ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ 

สำนักข่าว MC.news.com รายงาน